Skip to content

การสอบ SAT VS ACT แตกต่างกันอย่างไร

SAT VS ACT

SAT VS ACT แตกต่างกันอย่างไร หลาย ๆ คนอาจมีคำถาม ต้องบอกก่อนเลยว่าการสอบ SAT และการสอบ ACT นั้น มีความคล้ายคลึงกัน เป็นการวัดระดับความสามารถของนักเรียนในด้านทักษะที่สำคัญต่าง ๆ เช่น การแก้ปัญหาและความเข้าใจในการอ่าน เป็นต้น การสอบทั้ง 2 ประเภทสามารถใช้ยื่นสมัครเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อีกทั้งมหาวิทยาลัยหลายแห่งยังใช้ผลคะแนนสอบของการสอบ SAT หรือ ACT ในการพิจารณามอบทุนการศึกษาด้วยเช่นกัน จึงเป็นที่มาที่ทำให้หลาย ๆ คนสงสัยว่า SAT VS ACT แตกต่างกันอย่างไร การสอบแบบไหนที่เหมาะกับเรา? วันนี้พี่กริฟฟินจะมาให้ข้อมูลความแตกต่างของการสอบทั้งสองอย่างนี้เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจของน้อง ๆ ว่าควรเลือกสอบแบบไหนดี

เรามาทำความรู้จักระหว่าง SAT กับ ACT กันก่อน

SAT 

ย่อมาจาก Scholastic Aptitude Test หรือ Scholastic Assessment Test จัดโดยหน่วยงานของสหรัฐอเมริกาชื่อ College Board เป็นการทดสอบวัดความรู้ความสามารถของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ข้อสอบ SAT เป็นข้อสอบมาตรฐานที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงมหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทยใช้ประกอบการสมัครเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี ข้อสอบจะวัดทักษะด้าน Evidence-based Reading and Writing และ Mathematical reasoning ของนักเรียน

ACT

ย่อมาจาก American College Testing Assessment เป็นข้อสอบที่วัดทักษะเกี่ยวกับการใช้เหตุผล ทักษะการวิเคราะห์และการแก้ปัญหา รวมถึงทักษะการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกาและมหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทย ประกอบด้วยพาร์ท English, Mathematics, Reading และ Science มีความคล้ายคลึงกับการสอบ SAT แต่ ACT จะมีการสอบวิทยาศาสตร์เพิ่มเข้ามาด้วย

SAT VS ACT แตกต่างกันอย่างไร

วันนี้พี่กริฟฟินจะมาสรุปข้อแตกต่างระหว่าง SAT VS ACT ให้ฟังเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจว่าน้อง ๆ จะเลือกสอบ SAT หรือสอบ ACT ดี

Comparison-SAT-ACT

สอบอะไรบ้าง

การสอบ SAT และ ACT ค่อนข้างคล้ายคลึงกันแต่ก็ยังมีความแตกต่างกันนิดหน่อย หลัก ๆ เลยจะเป็นในเรื่องของวิชาสอบที่ ACT จะมีการสอบวิทยาศาสตร์เพิ่มเข้ามา ในขณะที่ SAT จะไม่มี เรามาดูกันอย่างละเอียดกันดีกว่าค่ะว่า SAT VS ACT ต้องสอบอะไรบ้าง

ข้อสอบ SAT จะแบ่งออกเป็น 2 พาร์ท ได้แก่

1. Evidence-Based Reading & Writing โดยจะแบ่งข้อสอบออกเป็น 2 ชุดคือ

  • Section 1 Reading test มีจำนวน 52 ข้อ เป็นการทดสอบในเรื่องของการอ่าน โดยจะประกอบไปด้วย 5 บทความตามหัวข้อต่าง ๆ
  • Section 2 Writing and Language มี 44 ข้อ จาก 4 บทความ เป็นการทดสอบในเรื่องของทักษะการเขียน โดยจะเป็นการทดสอบว่าเราสามารถเขียนได้ถูกหลักไวยากรณ์หรือไม่ ใช้เครื่องหมายวรรคตอนถูกหรือเปล่า หรือใช้คำศัพท์ได้เหมาะสมหรือไม่

2. Mathematics โดยจะแบ่งข้อสอบออกเป็น 2 ชุดคือ

  • Math Test (Calculator) มี 38 ข้อ เป็นทั้งแบบ Choice และเติมคำตอบ ในการสอบพาร์ทนี้ น้อง ๆ สามารถใช้เครื่องคิดเลขในการช่วยคำนวณได้
  • Math Test (No calculator) มี 20 ข้อ เป็น Choice 16 ข้อ และเติมคำตอบ 4 ข้อ โดยพาร์ทนี้ไม่สามารถใช้เครื่องคิดเลขได้

ข้อสอบ ACT จะแบ่งออกเป็น 5 พาร์ท ได้แก่

1. ACT English เป็นข้อสอบวัดทักษะทางภาษาอังกฤษด้านไวยากรณ์และความถูกต้องในการใช้ภาษา ข้อสอบเป็นแบบ Choice มีเลือกตอบ 4 ตัวเลือก

2. ACT Mathematics เป็นข้อสอบพาร์ทคณิตศาสตร์ มีทั้งหมด 60 ข้อ เป็นแบบ Choice ให้เลือกตอบ 5 ตัวเลือก ในการสอบน้อง ๆ สามารถนำเครื่องคิดเลขเข้าห้องสอบได้ แต่ห้ามนำเครื่องคิดเลขที่มีโปรแกรมคำนวณอัตโนมัติเข้าเด็ดขาด

3. ACT Reading เป็นข้อสอบพาร์ทการอ่านซึ่งมีทั้งบทความยาวและบทความสั้น ข้อสอบจะมีทั้งหมด 40 ข้อ เป็นข้อสอบแบบ Choice ให้เลือกตอบ 4 ตัวเลือก พาร์ทนี้ต้องบริหารเวลาให้ดีเพราะให้เวลาค่อนข้างน้อย

4. ACT Science เป็นข้อสอบพาร์ทวิทยาศาสตร์ มีทั้งหมด 40 ข้อ เป็นข้อสอบแบบ Choice ให้เลือกตอบ 4 ตัวเลือก พาร์ทนี้จะต้องคิดเร็ว ตอบเร็ว ถึงจะสามารถทำเสร็จภายในเวลาที่กำหนดได้

5. ACT Writing พาร์ทนี้ผู้สอบสามารถเลือกได้ว่าต้องการสอบหรือไม่ ข้อสอบพาร์ทนี้เป็นการวัดทักษะทางด้านการเขียน มีคำถามให้เพียง 1 ข้อ ซึ่งเราจะต้องพยายามเขียนให้ตรงประเด็น แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการวิเคราะห์ เรียบเรียง และทักษะการใช้คำศัพท์

เวลาและจำนวนข้อสอบ SAT VS ACT

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างการสอบ SAT และ ACT ก็คือในเรื่องของระยะเวลา การสอบ SAT จะให้เวลาต่อคำถามในแต่ Section ที่มากกว่า ในขณะที่ ACT จะเป็นการเน้นให้ทำข้อสอบแบบเร็วมากกว่า นอกจากนี้การสอบ ACT ยังมีคำถามที่มากกว่า SAT แต่ในขณะเดียวกันคำถามของข้อสอบ SAT มักจะเน้นไปที่การอ่านและการแก้ไขปัญหาที่ต้องใช้เวลานานกว่า ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความถนัดของน้อง ๆ แต่ละคน

คะแนนสอบ SAT และ ACT

หลายคนอาจสงสัยในเรื่องของคะแนนสอบระหว่าง SAT VS ACT วันนี้พี่กริฟฟินจะมาคลายข้อสงสัยเหล่านี้กันค่ะ เริ่มจากการสอบ SAT กันก่อน

SAT คะแนนเต็มจะคิดเป็น 1600 คะแนน แบ่งออกเป็น 800 คะแนนจากวิชาภาษาอังกฤษ (Evidenced-based reading) และ 800 คะแนนจากวิชาคณิตศาสตร์ ในวิชาภาษาอังกฤษจะแบ่งออกเป็น 400 คะแนนจาก Evidenced-based reading และ 400 คะแนนจาก Writing and Language

ในส่วนของ ACT คะแนนสอบ ACT แต่ละพาร์ทจะอยู่ในช่วง 1-36 คะแนน จากนั้นจะต้องนำคะแนนของแต่ละพาร์ทมาหาค่าเฉลี่ยเพื่อให้ออกมาเป็นคะแนนรวม ซึ่งจะมีคะแนนเต็ม 36 คะแนน ส่วน ACT Writing จะอยู่ในช่วง 2-12 คะแนน

แบบไหนง่ายกว่า เลือกสอบแบบไหนดี

พี่กริฟฟินอยากบอกว่าไม่ได้มีอันไหนง่ายกว่ากันเลย น้อง ๆ อาจจะต้องพิจารณาจากความถนัดของตัวเองว่าเราเก่งในเรื่องของทักษะแบบไหนมากกว่ากัน ยกตัวอย่างเช่น

เมื่อเราพูดถึงความแตกต่างของการทดสอบ ในพาร์ทของคณิตศาสตร์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่น่าสนใจ การสอบ SAT พาร์ทคณิตศาสตร์จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนหนึ่งสามารถใช้เครื่องคิดเลขได้และอีกส่วนหนึ่งไม่สามารถใช้เครื่องคิดเลขได้ ดังนั้นการสอบคณิตศาสตร์จะคิดเป็นร้อยละ 50 ของคะแนนรวมในการสอบ SAT ในทางกลับกันการสอบ ACT จะมีการสอบคณิตศาสตร์เพียงแค่ส่วนเดียวซึ่งสามารถใช้เครื่องคิดเลขได้ และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นวิทยาศาสตร์ ในกรณีนี้คะแนนคณิตศาสตร์จะคิดเป็นแค่เพียงร้อยละ 25 ของคะแนนสอบรวมทั้งหมดของการสอบ ACT ดังนั้นแล้วหากน้อง ๆ คิดว่าเราไม่ถนัดวิชาคณิตศาสตร์ ก็อาจสนใจเลือกสอบ ACT มากกว่าสอบ SAT อย่างไรก็ตามหากน้อง ๆ มีทักษะในการวิเคราะห์ที่ดีและชอบคณิตศาสตร์ การสอบ SAT ก็อาจตอบโจทย์มากกว่า

ทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราตัดสินใจได้ว่าจะเลือกสอบ SAT หรือ สอบ ACT นั้น พี่กริฟฟินแนะนำให้ลองทำ Practice test ของทั้งข้อสอบ SAT และข้อสอบ ACT ก่อน เพราะเนื้อหาข้อสอบมีความคล้ายคลึงกัน แต่สิ่งที่จะทำให้น้อง ๆ ตัดสินใจได้นั่นก็คือในเรื่องของรูปแบบและการบริหารเวลาในการทำข้อสอบนั่นเอง

ติวเข้มกับ House of Griffin

หากน้อง ๆ ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกสอบ SAT หรือสอบ ACT แต่อยากที่จะติวเข้มเพื่อให้ได้คะแนนสูง ๆ อย่างที่ตั้งใจไว้ พี่กริฟฟินแนะนำให้มาติวสอบกับทางสถาบัน House of Griffin โดยเรามีทีมอาจารย์ที่มีประสบการณ์มามากกว่า 12 ปี คอยดูแล บอกเคล็ดลับในการสอบต่าง ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการบริหารเวลาในการทำข้อสอบซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งทางทีมอาจารย์จะช่วยติวเข้มเข้าถึงเนื้อหาแบบลึกซึ้งทำให้มีความพร้อมและความมั่นใจในการสอบ ทางสถาบันการันตีได้เลยว่าหากมาติวสอบกับทางสถาบัน House of Griffin น้อง ๆ จะสามารถสอบผ่านและได้คะแนนสูงอย่างที่ตั้งใจไว้แน่นอน

ดูรายละเอียดคอร์ส SAT ดูรายละเอียดคอร์ส ACT Science
Share this article