Skip to content

ทำความเข้าใจ Past Perfect & Past Perfect Continuous ในข้อสอบ SAT Eng ฉบับปราบเซียน

ความแตกต่างของ Past Perfect & Past Perfect Continuous Tense

By Kru WhaWha

Tense นับว่าเป็นหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษอย่างหนึ่งที่นักเรียนหลาย ๆ คนคงเหนื่อยกันไม่น้อย เนื่องจากต้องเรียนและท่องจำมาอย่างนับไม่ถ้วน แต่เราอาจจะต้องเหงื่อตกกันต่อเพราะนอกจาก tense “ทั่วไป” อย่าง Present Simple ในข้อสอบ วัดระดับภาษาอังกฤษ (SAT Eng) ยังมี Past Perfect & Past Perfect Continuous ซึ่งเป็นการพูดถึงเรื่องราวในอดีตและมีรายละเอียดที่ต้องจดจำยิบย่อยมากมาย โดยเรื่องที่เราจะมาโฟกัสกันในวันนี้ ก็เป็นกลุ่ม Past Tense ทั้งสองแบบนี้ที่อาจจะไม่ค่อยได้เจอเท่าไหร่แต่กลับเป็น tense ปราบเซียนที่วิธีใช้แสนซับซ้อนค่ะ มาดูว่าใช้แตกต่างกันอย่างไรและมีข้อสังเกตอะไรเพิ่มเติมบ้าง

Past Perfect Tense เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบไปแล้ว แต่มีอีกเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนและบ่งบอกเวลา

Past Perfect นับว่าเป็น tense ในตระกูล Past Tense ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องในอดีต หรือเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วนั้นเองค่ะ แต่อยากให้เริ่มทำความเข้าใจจาก Past Simple ก่อน เพราะเป็น tense เรียบง่ายที่ใช้ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบไปแล้ว ส่วน Past Perfect Tense ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบไปแล้วเช่นกัน แต่จะผสมผสานความซับซ้อนขึ้นไปอีกเพราะมีอีกเหตุการณ์เกิดตามเข้ามาด้วยนั่นเอง

Past Perfect Tense เขียนอย่างไร ?

เรามาเริ่มที่โครงสร้างประโยคของ Past Perfect Tense กันก่อนแล้วกันนะคะ ซึ่งก็คือ

[ Subject + had + V.3 ]

แน่นอนว่าประโยคของเราต้องเริ่มต้นด้วย Subject หรือประธานของประโยค (ผู้ที่กระทำ/ถูกทำ action) แต่หลังจากประธานนั้นจะต้องเป็น had ซึ่งเป็นรูปอดีตของคำว่า have (ใช่แล้วค่ะ เพราะว่านี่เป็น Past Tense แบบหนึ่งไงละคะ) และหลังจาก had ก็ต้องตามด้วย verb ช่อง 3 นั่นเองค่ะ

ควรใช้ Past Perfect Tense ตอนไหนดี

จาก past ที่อยู่ในชื่อของ tense นี้ก็ชัดเจนแล้วว่าควรใช้ Past Perfect Tense กับเหตุการณ์ในอดีต แต่ว่า past perfect tense จะมีวิธีใช้ที่พิเศษไปกว่าเพื่อน ๆ หน่อย นั่นคือ Past Perfect Tense จะถูกใช้เมื่อเราต้องการแสดงว่ามีเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตอีกที หรือถ้าจะสรุปง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเราพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตแล้ว แต่อยากจะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนเรื่องนั้นอีกหรือเก่ากว่าเรื่องนั้นอีก นั่นแหละคือตอนที่เราจำเป็นจะต้องใช้ past perfect tense มาช่วยบอกเวลา

ตัวอย่างเช่น: Susan had been the champion before she was defeated by Allegra last week. 

อธิบายว่า “Susan เคยเป็นแชมป์ก่อนที่ Allegra จะเอาชนะเธอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว” จะเห็นได้ว่าเหตุการณ์ที่ Allegra ชนะ Susan ก็เกิดขึ้นในอดีต จึงใช้ past simple tense แต่เพราะว่ามีสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นอีก ซึ่งก็คือการที่ Susan เคยเป็นแชมป์คนเก่า เราจึงต้องใช้ past perfect tense เพื่อแสดงให้เห็นชัดว่าเป็นเหตุที่เกิดขึ้นก่อน past simple

จุดที่ควรสังเกตเพิ่มเติม

เรามักจะเจอ past perfect tense ในรูปแบบไหน ? ในเมื่อ past perfect tense หมายถึง “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่เก่ายิ่งกว่า” มันก็ต้องใช้คู่กับ tense ที่แสดงอดีตอย่าง past simple เสมออยู่แล้วค่ะ แต่ว่าไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในประโยคเดียวกันเลยแบบตัวอย่างข้างต้นเสมอไปนะคะ บางกรณีอาจจะอยู่คนละประโยคก็ไม่เป็นไรค่ะ ตราบใดที่ตามความหมายแล้ว make sense ก็สามารถใช้ past perfect tense ได้เลย

ตัวอย่างเช่น: Susan had been the champion. However, she was defeated by Allegra last week.

Past Continuous Tense เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นและดำเนินไป ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่เหตุการณ์ทั้งหมดได้จบลงแล้ว

อีกหนึ่ง tense ที่เราจะมาให้ความสนใจในวันนี้ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว Past Tense เช่นเดียวกัน ก็คือ past continuous tense ค่ะ เรียกได้ว่ามีหลักการคล้ายกันมากระหว่าง Past Perfect & Past Perfect Continuous ดังนั้น tense นี้ก็เป็น tense ที่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วเหมือนกับ Past Tense อื่น ๆ และก็ยังแถมเอกลักษณ์ของ continuous tense มาอีกด้วย เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตนั้นยังคงเกิดขึ้นเรื่อยมาจนถึงเวลาที่พูด

Past Continuous Tense เขียนอย่างไร ?

รูปร่างโครงสร้างประโยคของ past continuous tense นั้นเป็นดังนี้

[ Subject + was / were + V.ing ]

เริ่มต้นด้วยประธานหรือ subject เช่นเดิมและตามด้วย was / were ซึ่งเป็นรูปอดีตของ v.to be (is/am/are) ค่ะ 

วิธีเลือกใช้คร่าว ๆ มีดังนี้

  • was ใช้กับ subject ที่เป็น singular หรือมีคนเดียว/ตัวเดียว/อย่างเดียว เช่น he, she, it, I, Susan, Allegra
  • were ใช้กับ subject ที่เป็น plural หรือมีหลายคน/หลายตัว/หลายอย่าง เช่น we, they, those cats แต่รวม you ด้วย
  • โดยคำหลัง was/were ต้องเป็น v.ing ซึ่งก็คือ verb เติม -ing เช่น walking, swimming, dancing นั่นเอง

ควรใช้ Past Continuous Tense ตอนไหนดี

Past Continuous Tense เป็น tense ที่เราจะใช้เพื่อบ่งบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งเริ่มขึ้นและจบลงไปเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ความแตกต่างระหว่าง Past Simple Tense และ Past Continuous Tense ก็คือ Past Simple Tense เป็นแค่เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นและจบแล้วแบบห้วน ๆ ในขณะที่ Past Continuous Tense แสดงว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ดำเนินไปและจบลง

  • Past Continuous Tense ทำให้เหตุการณ์นั้นมี duration หรือระยะเวลานั่นเอง

ตัวอย่างเช่น: I was reading a book for hours last night.

แต่วิธีการใช้ past continuous tense อีกวิธีซึ่งเรามักจะเจอตามข้อสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ (SAT Eng) ก็คือ ใช้เพื่อแสดงว่ามีเหตุการณ์บางอย่างกำลังเกิดขึ้นอยู่ แล้วจู่ ๆ ก็มีอีกเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างนั้น โดยอย่างแรกคือ Past Continuous Tense และอย่างที่สองจะใช้ Past Simple Tense นั่นคือ

  • Past Continuous Tense [เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ (มีระยะเวลา) ] + Past Simple Tense [เหตุการณ์ที่จู่ ๆ ก็มารบกวนเหตุการณ์แรก]

ตัวอย่างเช่น: I was reading a book last night when my mom came home.

อธิบายว่า: “ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่เมื่อคืน ตอนที่แม่ฉันกลับบ้าน”

จุดที่ควรสังเกตเพิ่มเติม

เรามักจะเจอ Past Continuous Tense ในรูปแบบไหน ?

ตามข้อสอบเรามักจะเจอการใช้ Past Continuous Tense ในรูปแบบที่จะใช้คู่กับ Past Simple Tense ตามตัวอย่างข้างต้นเป็นหลัก ซึ่งให้เราสังเกตได้เลยว่าถ้าเจอประโยคที่มี when กับ Past Simple Tense แบบนี้ เราน่าจะต้องใช้ Past Continuous Tense เพื่อสื่อความหมายเช่นนี้

แต่แน่นอนว่าต้องเปิดใจกว้างไว้ด้วยนะคะ บางทีประโยคที่โจทย์ให้มาอาจจะไม่ให้ when มา หรือ Past Simple Tense อาจจะอยู่คนละประโยคกับ Past Continuous Tense เลยก็เป็นได้ค่ะ

ตัวอย่างเช่น: Last night, I was reading a book. Then, suddenly, my mom came home.

จำง่ายใช้ถูกกับ Past Perfect และ Past Continuous ในข้อสอบ SAT

เป็นยังไงกันบ้าง! จบไปแล้วกับรายละเอียดของ Past Perfect & Past Perfect Continuous ที่สุดซับซ้อนอย่าง ซึ่งเป็นหลักไวยากรณ์ที่น่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับทุก ๆ คนที่อยากพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษนะคะ โดยแน่นอนว่าการทำความเข้าใจลักษณะและวิธีการใช้เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญ แต่นักเรียนทุกคนจำเป็นต้องลองทำแบบฝึกหัดบ่อย ๆ เพื่อให้ชินกับการใช้ tense ต่าง ๆ มิฉะนั้นก็คงเข้าใจวิธีนำไปใช้จริงได้ยากค่ะ ดังนั้นก็ต้องพยายามทำแบบฝึกหัดด้วยนะคะ หรือหากใครอยากมาร่วมตะลุยข้อสอบไปพร้อมกับ Kru WhaWha ก็มาเจอกันได้ที่ House of Griffin ได้เลยค่ะ เรายังมีคอร์สติวสอบ SAT ให้เลือกลงเรียนมากมาย

“ขอให้มีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษต่อไปนะคะ!”

Share this article