Skip to content

เคล็ดลับการใช้ Complex Sentence และ Vocabulary ระดับสูง เพื่อคว้าคะแนน IELTS Band 8-9

เคล็ดลับการใช้ Complex Sentence และ Vocabulary ระดับสูง เพื่อคว้าคะแนน IELTS Band 8-9

ใครที่เตรียมตัวไปสอบ IELTS และตั้งเป้าหมายว่าอยากได้คะแนนสูง ๆ เพื่อนำเอาไปยื่นเรียนต่อหรือทำงานในอนาคต วันนี้พี่กริฟฟินก็มี How to การเพิ่มคะแนน IELTS ใน Part ของ Writing และ Speaking โดยใช้ Complex Sentence และ Vocabulary ระดับสูงเข้ามาช่วยเพิ่มโอกาสในการคว้าคะแนน IELTS Band 8-9 มาฝากกัน

Complex Sentence คืออะไร สำคัญยังไงกับคะแนน IELTS

ก่อนที่จะเริ่มต้นการใช้รูปประโยคแบบ Complex Sentence น้อง ๆ ก็จะต้องทำความรู้จักและเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของรูปประโยคต่าง ๆ ในภาษาอังกฤษเสียก่อน จึงจะสามารถนำเอาประโยคแต่ละรูปแบบมาปรับใช้งานได้ตามความเหมาะสม โดยรูปประโยคในภาษาอังกฤษก็สามารถแบ่งออกได้เป็น ประเภท 4 ดังนี้

1. Simple Sentences (ประโยคทั่วไป)

ประโยคทั่วไปที่มีใจความเดียว โดยจะประกอบไปด้วยประธาน (Subject) และกริยา (Verb) เพียงตัวเดียว และอาจมีคำขยายประธาน, กริยา, กรรมได้

ตัวอย่างเช่น : I eat a bagel., She lights the candle.

2. Compound Sentence (ประโยคความรวม)

ประโยคที่ประกอบด้วย Simple Sentences 2 ประโยครวมกัน แล้วมีคำเชื่อม (คำสันธาน) ระหว่างประโยค หรือที่เรียกว่า Coordinating Conjunction เข้ามารองรับประโยคให้เข้ากัน เช่น For, And, Nor, But, Or, Yet, So ในส่วนนี้ ถ้าใครจำไม่ค่อยได้ ให้จำไว้เลยว่า คำเชื่อมต้องใช้ FANBOYS และคำที่นำมาเชื่อมกัน จะต้องมีเครื่องหมาย ( , หรือ ; ) คั่นด้วย 

ตัวอย่างเช่น : It was cold outside, so we wore sweaters., The sun is shining, and the birds are singing.

3. Complex Sentence (ประโยคความซ้อน)

เป็นรูปประโยคที่มีความซับซ้อน ซึ่งจะมีประธานและกริยามากกว่า 1 ชุด สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ประโยคที่เป็นใจความหลัก (Main/ Independent clause) และประโยคใจความย่อย (Subordinate/ Dependent clause) โดยเชื่อมระหว่างประโยคด้วย Subordinating Conjunctions เช่น AWUBIS (although, after, as, when, while, until, unless, because, before, if หรือ since เป็นต้น

ทั้งนี้หาก AWUBIS อยู่ใจกลางประโยคก็ไม่ต้องคั่นด้วย (,) แต่หากอยู่ด้านหน้าจะต้องใส่ (,) เสมอ 

ตัวอย่างเช่น : I love Chemistry because it is interesting. After he left, his parents arrived.

4. Compound Complex Sentence (ประโยคความรวมและความซ้อน)

เป็นรูปประโยคที่นำเอาทั้ง Compound Sentence และ Complex Sentence มารวมกัน โดยจะมีประโยคที่หลักที่มีใจความสมบูรณ์ (Independent clause) 2 ประโยค และประโยคที่มีใจความไม่สมบูรณ์ (Dependent clause) อีก 1 ประโยค ทั้งนี้อาจเริ่มต้นจากการเขียน Simple Sentence ขึ้นมาทั้งหมด 3 ประโยคก่อน และนำเอาประโยคมาเชื่อมกันด้วย FANBOYS จากนั้นเติม AWUBIS ในส่วนที่เป็นประโยคย่อยเพื่อเติมให้ใจความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยประโยครูปแบบนี้บางครั้งอาจมี (,) คั่นกลางประโยคมากกว่า 1 ตัว ตามรูปประโยคที่เขียนออกมา 

ตัวอย่างเช่น : The team captain jumped for joy, and the fans cheered because we won the state championship. หรือ When we won the state championship, the team captain jumped for joy, and the fans cheered.

จะเห็นได้ว่าเมื่อยกระดับรูปประโยคจาก Simple Sentence มาเป็นประโยคที่มีความซับซ้อนมากขึ้นจะทำให้ดูมีมิติและน่าดึงดูดมากกว่าการใช้แค่รูปประโยคทั่วไปซ้ำ ๆ กัน รวมถึงเป็นจุดที่จะช่วยเพิ่มคะแนน IELTS ทั้ง Writing และ Speaking ของน้อง ๆ ได้อีกด้วย เนื่องจากการเลือกใช้ประโยคที่มีความหลากหลายและซับซ้อนจะทำให้มีความคล้ายคลึงกับการใช้ภาษาของเจ้าของภาษา (Native) นั่นเอง โดยวันนี้ก็จะมาเจาะลึกในการใช้ “Complex Sentence” ให้มากขึ้นกัน

การใช้ Complex Sentences อย่างมีประสิทธิภาพ

การเขียนรูปประโยคแบบ Complex Sentence ให้ออกมามีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือได้นั้น นอกจากจะต้องกำหนดตัวประโยคที่ต้องการจะสื่อถึงใจความหลัก (Main/ Independent clause) ให้ชัดเจนแล้ว การเลือกใช้ “คำเชื่อม” และ “คำกริยา” เพื่อเชื่อมประโยคเข้าด้วยกันก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยน้อง ๆ จะต้องทำความเข้าใจกับ Subordinate Clauses, Relative Clauses และ Participle Constructions เพื่อเลือกใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ดังนี้

Subordinate Clauses

ส่วนของประโยคย่อยหรือประโยครอง (Dependent Clause) ที่จะเสริมให้ประโยคหลัก (Independent Clause) สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นโดยใช้คำเชื่อมในกลุ่ม AWUBIS สามารถเลือกใช้คำเชื่อมตามสถานการณ์ได้ง่าย ๆ เช่น คำเชื่อมแสดงความขัดแย้ง (although, even though, while, whereas), คำเชื่อมแสดงเหตุผล (because, since, as) คำเชื่อมแสดงเงื่อนไข (if, unless) คำเชื่อมที่สื่อถึงเวลา (when, before, after) เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น : Before the film started, I made sure I got a great seat because it starred my favourite actor.

Relative Clauses

ประโยคเชื่อม เป็นการใช้คำช่วยเข้ามาทำให้รูปประโยคโดยรวมดูหนักแน่นมากยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกใช้คำเชื่อมในกลุ่ม who, whom, whose, which, that, where, when ได้

ตัวอย่างเช่น : We went to school when it snowed heavily.

Participle Constructions 

การใช้กริยาช่วยเพื่อลดรูปประโยคให้มีความกระชับ แสดงเหตุผล ผลลัพธ์ และที่มาที่ไปของเหตุการณ์ในประโยคนั้นมากขึ้น โดยอาจปรับการใช้คำกริยาแบบ Active ที่อธิบายถึงสิ่งที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน (-ing) หรือสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว Passive (-ed/-en) เข้ามาช่วยในการเสริมรูปประโยค

ตัวอย่างเช่น : She left the room singing happily. โดยประโยคนี้มีความหมายเทียบเท่ากับ She left the room as she was singing happily โดยจะเห็นว่านอกจากจะใช้คำว่า as มาเชื่อมแล้ว ยังเพิ่มคำกริยาในรูป (ing) เข้ามาเสริมให้ประโยคดูกระชับและเข้าใจง่ายอีกด้วย

ยกระดับคะแนน IELTS ด้วยการใช้ Less Common Vocabulary

นอกเหนือไปจากรูปประโยคที่ทำให้ดู “โปร” ขึ้นมาแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับการเพิ่มคะแนนสอบ IELTS ก็คือการ “เลือกใช้คำศัพท์” ให้มีความหลากหลายและมีหลายระดับตามการใช้งาน เพราะถึงแม้ว่าน้อง ๆ จะสามารถเขียนรูปประโยคออกมาให้เป็นประโยคที่มีใจความซ้อนหรือใจความรวมได้แล้ว แต่ยังเลือกใช้คำศัพท์แบบพื้นฐานหรือเลือกใช้คำศัพท์เดิมซ้ำ ๆ ก็จะทำให้คณะกรรมการเห็นว่า “คลังศัพท์” ของเรามีน้อย และจะส่งผลให้คะแนน IELTS ออกมาไม่สูงเท่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนนจะมีส่วนของ Lexical Resource หรือการเลือกใช้คำศัพท์ได้อย่างถูกต้องและมีความหลากหลาย เหมาะสมกับบริบทด้วย พี่กริฟฟินจึงอยากจะแนะนำให้น้อง ๆ หยิบเอาคำศัพท์ Synonym ที่สื่อความหมายเดียวกันแต่มีการเขียนที่ซับซ้อนกว่าเพื่อยกระดับคะแนนของเราขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

ตัวอย่าง 10 คำศัพท์ Less Common Vocabulary ที่น่าสนใจ

หมวดหมู่

คำศัพท์พื้นฐาน (Basic)

คำศัพท์/วลี แบบ Less Common/Advanced

ปัญหา

problem

drawback, predicament, issue, conflict

การแก้ปัญหา

solve, fix

ameliorate, resolve, solution, rectify

เปลี่ยนแปลง

change

transform, modify, revolution, revise

การเพิ่มขึ้น

increase, grow

soar, surge, escalate, expand, amplify

การลดลง

decrease, drop

fall, decline, plummet, slump, dip, contraction

ความสำคัญ

important

vital, critical valuable, essential, significant

การหลีกเลี่ยง

avoid, prevent

circumvent, avert, curb, mitigate

การอธิบาย

explain

clarify, expound, interpret, elucidate

ต้องการ

need

require, demand, necessitate, call for

ความน่าสนใจ

interesting

fascinating, engaging, attractive, intriguing

นอกจากตัวอย่าง 10 คำศัพท์ที่ยกมานี้ ยังมีคำศัพท์อีกมากมายที่มีความหมายคล้ายคลึงกันแต่มีการเขียนที่แตกต่างกัน ซึ่งการเลือกใช้คำศัพท์ในระดับที่สูงขึ้นจะเป็นตัวเพิ่มคะแนนให้กับน้อง ๆ ได้ แต่แนะนำว่าอย่าท่องจำแค่คำศัพท์เท่านั้น ให้เรียนรู้คำศัพท์ Collocations (คำที่ใช้คู่กันตามธรรมชาติ) และปรับใช้คำศัพท์ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับรูปประโยคที่เขียนออกมาด้วย

อ่านเพิ่มเติม : แจกคําศัพท์ IELTS ออกบ่อย ท่องจำได้มีชัยไปกว่าครึ่ง

หลีกเลี่ยง Overuse และ Unnatural Language

สิ่งสำคัญของการทำข้อสอบ IELTS Speaking และ Writing คือการใช้คำศัพท์ให้มีความหลากหลาย (Lexical Resource) จึงควรระมัดระวังเรื่องการใช้คำศัพท์ไม่ให้ถี่จนเกินไป (Overuse) แต่ให้ใช้คำศัพท์ที่มีความหมายคล้ายคลึงกันแทน ดังนั้นจึงควรศึกษาคำศัพท์ให้หลากหลายเพื่อขยายคลังคำศัพท์ของเราให้กว้างขึ้น เวลาหยิบมาใช้งานจะได้มีคำศัพท์ให้เลือกใช้ได้ได้มากขึ้นและดูไม่ซ้ำซากจำเจจนทำให้การตอบของเราดูน่าเบื่อ และควรผสมผสานการใช้งานประโยคทั้งรูปแบบ Simple, Compound, Complex และ Compound-Complex ไม่ให้มีการใช้ประโยคในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเยอะจนเกินไป

ไม่เพียงเท่านั้น ยังควรระมัดระวังเรื่องการใช้คำศัพท์ที่เป็น Less Common Vocabulary โดยไม่รู้ความหมายที่แท้จริงจนทำให้ผิดบริบทการใช้งานและทำให้ความหมายผิดเพี้ยนไป เพราะนอกจากจะทำให้ผิดไวยากรณ์แล้ว ยังทำให้ดูเป็น Unnatural Language หรือภาษาที่สื่อความหมายออกมาแปลก ๆ ที่จะทำให้คะแนนของเราลดลงได้ เช่น การเลือกใช้คำศัพท์ที่ดูเป็นทางการมากเกินไปใน Speaking Part 1 ที่เน้นเรื่องการแนะนำตัวเองแบบเป็นธรรมชาติ หรือการใช้คำแบบเป็นกันเองมากเกินไปใน Speaking Part 2 ที่เน้นการพูดถึงเนื้อหาตาม Card ที่ได้มา โดยควรใช้คำพูดแบบเป็นเหตุเป็นผล และเลี่ยงการใช้คำย่อ เป็นต้น

เทคนิคฝึกใช้งาน Complex Sentence และ Vocabulary ขั้นสูงเพื่อคว้าคะแนน IELTS 8-9

ฝึกรวมประโยคและใช้โครงสร้างประโยคให้มีความหลากหลาย

ในเบื้องต้นอาจลองเขียนประโยคที่ต้องการออกมาเป็น Simple Sentence ให้เข้าใจง่าย ๆ ก่อน จากนั้นเลือกใช้คำเชื่อมให้เหมาะสมกับรูปประโยคเพื่อสร้าง Complex Sentence ขึ้นมา โดยใช้ Relative Clauses, Subordinating Conjunctions หรือ Participle Constructions มาเชื่อมใจความของประโยคที่ต้องการเล่าเรื่องให้ออกมาเป็น Complex Sentence รวมถึงฝึกการเขียนประโยคในรูปแบบอื่น ๆ เช่น Compound Sentence และ Compound-Complex Sentence แทรกใน Essay ของเราเพื่อฝึกการใช้งานประโยคหลาย ๆ รูปแบบ เช่น อาจลองสลับเอาประโยคย่อย (Dependent Clause) มาเรียงไว้ต้นประโยค และตามด้วยประโยคใจความหลัก (Independent Clause) เพื่อให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของการใช้ภาษาและความเข้าใจในการใช้งานประโยครูปแบบต่าง ๆ อย่างแท้จริง

ศึกษาคำศัพท์แบบ Less Common Vocabulary และทำความเข้าใจก่อนหยิบมาใช้งาน

นอกจากการท่องคำศัพท์ที่เป็น Synonym ของแต่ละคำเพื่อขยายคลังคำศัพท์ของเราแล้ว ยังควรทำความเข้าใจความหมายและการใช้งานศัพท์นั้น ๆ ให้คล่องและแม่นยำก่อนหยิบมาใช้งานจริงเพื่อลด Error ในการเขียนหรือพูดตอบคำถาม โดยอาจดูตัวอย่างประโยคของคำศัพท์ในเว็บไซต์ Dictionary ที่เชื่อถือได้ ตัวอย่างเช่น Cambridge Dictionary เพื่อให้เข้าใจบริบทของคำศัพท์มากขึ้นก่อนใช้งาน

ตัวอย่างคำศัพท์ที่ใช้ในการสอบ IELTS

ตัวอย่างคำศัพท์ว่า “Clarify” ที่มีความหมายเดียวกับคำว่า “Explain” ที่แปลว่าอธิบาย เป็นคำศัพท์ในระดับ C1 หรือเทียบเท่า IELTS 7.0 – 8.0 ซึ่งในเว็บไซต์ของ Cambridge Dictionary ก็มีคำอธิบายความหมายของคำศัพท์พร้อมยกตัวอย่างประโยค และมีตัวเลือกคำที่เป็น synonyms (คำที่มีความหมายคล้ายกัน) และ antonyms (คำที่มีความหมายตรงข้าม) ให้สามารถคลิกเข้าไปอ่านเพิ่มเติมเพื่อขยายคลังคำศัพท์ของเราได้อีกต่อ

ติวเพิ่มคะแนน IELTS ทั้ง 4 พาร์ทแบบเห็นผลจริงกับ House of Griffin

ถ้าใครกำลังมองหาผู้ช่วยในการติวสอบ IELTS ที่มีการลงรายละเอียดการสอนทุก Part แบบเจาะลึกทั้ง Reading, Listening, Writing และ Speaking แบบเก็บครบทุกทักษะ แจกคลังศัพท์ Vocabulary แบบอัดแน่นพร้อมช่วยอธิบายความหมายของแต่ละคำให้เข้าใจแบบลึกซึ้ง และแชร์เทคนิคการทำข้อสอบแบบไม่มีกั๊ก รวมทั้งมีการสอบ Mock up Test ก่อนสอบจริงเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนทุกคนแล้วละก็ ขอแนะนำให้ลงติว IELTS ที่ House of Griffin เลย เพราะสถาบันของเราเปิดสอนมากว่า 15 ปี การันตีด้วยความสำเร็จของศิษย์เก่ากริฟฟินทุกคนว่าจบคอร์สแล้วจะได้คะแนน IELTS สูงพอที่จะยื่นเรียนต่อในคณะที่ต้องการได้ในการติวรอบเดียวแบบไม่ต้องลงสอบซ้ำแน่นอน

Share this article
ไว้อาลัยสมเด็จพระพันปีหลวง