
ยื่น Port ฉบับเด็กสายอาร์ตนั้นไม่ยากอย่างที่คิด แต่สิ่งสำคัญที่สุดของสายนี้ คือ ความคิดสร้างสรรค์ที่น้อง ๆ จะต้องมีความแปลกใหม่ ไอเดียบรรเจิด สิ่งเหล่านี้จะทำให้น้อง ๆ มีความโดดเด่นขึ้นมา รับรองว่ายื่น Port ไปเข้าตากรรมการแน่นอน อย่างไรก็ตามน้อง ๆ บางคนอาจยังไม่แน่ใจว่าจะต้องเริ่มอย่างไร ต้องมีอะไรบ้าง ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะวันนี้พี่กริฟฟินจะมาสรุปในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบของการทำ Portfolio ผลงานต่าง ๆ ที่ควรใส่ ตกแต่งอย่างไรให้พอร์ตดูปัง เพื่อให้แฟ้มผลงานน้อง ๆ โดดเด่นพร้อมยื่น TCAS รอบ 1 กันค่ะ
สำหรับเด็กสายอาร์ตนั้นมีทางเลือกในการเรียนต่อมากมายไม่ว่าจะเป็นสาขาออกแบบ สถาปัตย์ มัณฑนศิลป์ จิตรกรรม นิเทศศิลป์ ศิลปกรรม ทั้งภาคไทยและภาคอินเตอร์ บอกได้เลยว่ามาสายนี้อนาคตไกลแน่นอน ซึ่งก่อนอื่นพี่กริฟฟินจะมาแนะแนวสาขาต่าง ๆ ให้น้อง ๆ ได้ลองศึกษาดูว่าอยากเรียนอะไร มหาวิทยาลัยไหน เพื่อที่น้อง ๆ จะได้มีเป้าหมายที่ชัดเจนและจะได้ศึกษาคุณสมบัติของคณะที่สนใจไว้เตรียมตัวล่วงหน้าค่ะ
ยื่น Port เด็กสายอาร์ตภาคอินเตอร์ที่ไหนได้บ้าง
อย่างที่พี่กริฟฟินเกริ่นไปข้างต้นว่าสำหรับเด็กสายศิลปะนั้นก็มีสาขาให้เลือกเรียนมากมายเช่นกันโดยเฉพาะภาคอินเตอร์ ซึ่งพี่กริฟฟินจะมาแนะนำแต่ละสาขาให้น้อง ๆ ได้ศึกษาข้อมูลดู คณะไหนโดนใจก็เตรียมตัวไว้เลยค่ะ
มหาวิทยาลัย | คณะ |
---|---|
CU (Chulalongkorn University) | Bachelor of Science in Architectural Design (INDA) Bachelor of Fine and Applied Arts (B.F.A.) (COMMDE) |
MUIC (Mahidol University International College) | Communication Design Program (CDP)Creative Technology |
SUIC (Silpakorn University International College) | Digital Communication Design (DCD) |
ABAC (Assumption University) | Digital Design and Innovation (DDI) |
KMUTT (King Mongkut’s University of Technology Thonburi) | School of Architecture and Design (SoA+D) |
TU (Thammasat University) | Urban Design and Development (International Program) (หลักสูตร 4+1 ปี ตรีควบโท) Design, Business & Technology Management (English program ตรีควบโท) |
ยื่น Port เด็กสายอาร์ตภาคไทยที่ไหนได้บ้าง
สำหรับน้อง ๆ ที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษหรือสนใจอยากเรียนภาคไทยมากกว่า พี่กริฟฟินก็มีตัวเลือกมาน้อง ๆ ได้ลองพิจารณาดังนี้ค่ะ
มหาวิทยาลัย | คณะ |
---|---|
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | สถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรมภายใน ภูมิสถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรมผังเมือง สถาปัตยกรรมไทย ออกแบบอุตสาหกรรม |
มหาวิทยาลัยศิลปากร | สถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรมไทย |
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง | สถาปัตยกรรม ภูมิสถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรมภายใน ศิลปอุตสาหกรรม สนเทศสามมิติ นิเทศศิลป์ |
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ | ภาควิชาการออกแบบทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์
|
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | สถาปัตยกรรม (หลักสูตร 4 ปี / 4+2ปี ตรีควบโท)
สถาปัตยกรรมภายใน (หลักสูตร 4 ปี)
ภูมิสถาปัตยกรรม (หลักสูตร 4 ปี)
สถาปัตยกรรมผังเมือง (หลักสูตร 4 ปี)
พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (หลักสูตร 4 ปี) บริหารจัดการ |
พระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด) | สถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรมภายใน ออกแบบอุตสาหกรรม นิเทศศิลป์ |
เห็นไหมคะว่าแต่ละสาขา แต่ละมหาวิทยาลัยน่าเรียนทั้งนั้นเลย พี่กริฟฟินอยากให้น้อง ๆ ลองพิจารณาดูว่าอยากเรียนต่อสาขาไหน มหาวิทยาลัยอะไร และเมื่อตัดสินใจได้แล้วก็เตรียม Portfolio สุดเจ๋งเพื่อยื่น TCAS รอบ 1 ได้เลย ใครพร้อมที่จะเริ่มเตรียมพอร์ตแล้ว ตามมาได้เลยค่ะ
ยื่น Port ฉบับเด็กสายอาร์ตต้องเตรียมอะไรบ้าง
สำหรับการยื่น Port ของเด็กสายนี้ๆ ต้องศึกษารายละเอียดของแต่ละคณะและมหาวิทยาลัยนั้น ๆ ก่อนว่าทางมหาวิทยาลัยต้องการอะไรบ้าง บางมหาวิทยาลัยอาจมีการจำกัดจำนวนหน้า บางมหาวิทยาลัยอาจไม่ได้จำกัดจำนวนหน้าแต่จำกัดขนาดไฟล์ หรือบางมหาวิทยาลัยอาจมีกำหนดโจทย์มาให้ว่าต้องการผลงานอะไรบ้าง เป็นต้น ซึ่งวันนี้พี่กริฟฟินจะมาพูดถึงภาพรวมของการทำ Portfolio ฉบับเด็กสายอาร์ต เพื่อให้น้อง ๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำ Portfolio ของตัวเองได้นั่นเอง
Port ของคณะเกี่ยวกับศิลปะมักให้ความสำคัญของผลงานเป็นหลัก ซึ่งสิ่งสำคัญ คือ ห้ามลอกงาน ควรให้เป็นงานที่ออกมาจากความคิดของตัวเอง กล้าคิด กล้าทำ เป็นโปรเจกต์ที่แปลกใหม่ ทำผลงานที่สามารถสื่อถึงศักยภาพของตัวเองให้ได้มากที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสในการพิจารณาของกรรมการ
Portfolio ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ส่วนที่ 1: Profile ประวัติส่วนตัว
ในส่วนที่ 1 ให้น้อง ๆ ใส่ประวัติส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด งานอดิเรก ความสามารถพิเศษ เป็นต้น พยายามบ่งบอกถึงความเป็นตัวเองมากที่สุด สรุปง่าย ๆ ว่าในส่วนของหน้านี้น้อง ๆ จะออกแบบการแนะนำตัวอย่างไรก็ได้เพื่อให้กรรมการรู้จักเรามากที่สุดผ่าน Portfolio น้อง ๆ สามารถเพิ่มคำบรรยายสั้น ๆ ว่าทำไมถึงอยากเข้าคณะนี้และมหาวิทยาลัยนี้ แสดงให้เห็นถึง Passion ที่เราอยากเข้าเรียนจริง ๆ
ส่วนที่ 2: Education การศึกษา
ในส่วนที่ 2 การศึกษา ให้น้อง ๆ ใส่ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาของตัวเองลงไปว่าเรียนที่ไหนมาบ้าง หลักสูตรอะไรบ้าง น้อง ๆ ควรใส่เกรดเฉลี่ยคะแนนสะสมเข้าไปด้วย หากใครที่มีคะแนนสอบอื่น ๆ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ก็สามารถใส่ลงไปได้เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพอื่น ๆ ที่เรามี
ส่วนที่ 3: Activities กิจกรรมต่าง ๆ
ในส่วนที่ 3 ให้น้อง ๆ ใส่กิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยเข้าร่วม ยิ่งมีความเกี่ยวข้องกับสาขาหรือคณะที่อยากเข้าก็ยิ่งดี รวมไปถึงการเรียนออนไลน์หรือคอร์สพิเศษต่าง ๆ ก็สามารถเอามาใส่ในส่วนนี้ได้ ในส่วนของกิจกรรมนี้พี่กริฟฟินแนะนำให้ใส่รูปประกอบพร้อมคำบรรยายสั้น ๆ ลงไป เพื่อให้มีความน่าสนใจและน่าอ่านมากยิ่งขึ้น
ส่วนที่ 4: Certificate เกียรติบัตร
ในส่วนที่ 4 หากน้อง ๆ เคยได้รางวัลหรือเกียรติบัตรต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับสาขาหรือคณะที่อยากเข้าก็ใส่มาใน Portfolio ได้เลยค่ะ เพื่อเป็นการการันตีศักยภาพและความสามารถของเรา น้อง ๆ สามารถใส่รูปเกียรติบัตรต่าง ๆ ลงไปได้เลย
ส่วนที่ 5: Artwork ผลงานต่าง ๆ
ส่วนสุดท้ายนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการยื่น Port เลยก็ว่าได้เพราะกรรมการจะตัดสินจากผลงานต่าง ๆ เป็นหลัก อย่างที่พี่กริฟฟินกล่าวไปข้างต้นว่าน้อง ๆ จะต้องศึกษารายละเอียดของสาขา คณะที่อยากเข้าก่อนว่าเกี่ยวกับอะไร แล้วเราก็พยายามทำผลงานโชว์ศักยภาพของเราออกมา ไม่ว่าจะเป็นการวาดมือ, การออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์, การออกแบบ Graphic design, Architecture design, Interior Design เป็นต้น หรือบางมหาวิทยาลัยอาจมีการกำหนดให้วาดมือต่าง ๆ เช่น Portrait, Landscape, Metal, Fabric หรือ Paper เป็นต้น ทั้งนี้น้อง ๆ ก็ควรฝึกมือไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ฝึกยิ่งบ่อยยิ่งดีเพราะมันจะทำให้เราเกิดความชำนาญและสามารถลงรายละเอียดของงานได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ตัวอย่าง Digital Portfolio Requirement ของคณะ COMMDE Chula
- พอร์ตต้องประกอบด้วยผลงาน 12 ชิ้น โดยที่ 11 ชิ้นแรก เป็นผลงานที่สื่อถึงทักษะการวาดรูป การระบายสี ภาพถ่าย ผลงาน 3D ภาพสเกตซ์ กราฟิก ฯลฯ ส่วนภาพที่ 12 เป็นภาพที่สื่อถึงความเป็นตัวตนของผู้สมัคร
- ผลงานทั้ง 12 ชิ้น จะต้องส่งมาในรูปแบบดังนี้
- รูปแบบไฟล์ PDF (ผลงาน 1 ชิ้น / หน้า) โดยที่ขนาดไม่เกิน 25 MB
- รูปแบบ JPEG ไฟล์ 12 ชิ้น (1 ไฟล์ / 1 ผลงาน)
- ขนาดของไฟล์ PDF แต่ละหน้า คือ 1920 x 1080 pixels
- ที่ด้านล่างขวาของทุกหน้าต้องลง ชื่อ-นามสกุล ผู้สมัครเป็นภาษาอังกฤษ
Reference : https://commde.com/admissions
สุดท้ายการออกแบบ Portfolio อย่าลืมดูในเรื่องของ Mood & Tone ที่เป็นไปในทางเดียวกัน ธีมสีต่าง ๆ ในการตกแต่ง Template ที่น่าสนใจ รวมไปถึงการใช้ Font ต่าง ๆ ให้อ่านง่าย ออกแบบให้ดูดี มีสไตล์ ใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปในผลงานเยอะ ๆ และแสดงความเป็นตัวเองให้ได้มากที่สุด เท่านี้น้อง ๆ ก็จะได้ Portfolio สุดปังพร้อมยื่น TCAS รอบ 1 แล้วค่ะ
เรียน Art and Design กับ House of Griffin
จะยื่นพอร์ตคณะสายอาร์ต หัวใจที่สำคัญคือผลงานที่ผ่านมา เพราะเป็นทางเดียวที่คณะกรรมการจะเห็นฝีมือของเรา ดังนั้นผลงานที่น้อง ๆ จะนำไปใส่ในพอร์ตต้องดีที่สุด เสมือนว่าเป็น Master Piece เลยก็ว่าได้ ถ้าใครยังไม่มั่นใจว่าผลงานที่เรามีอยู่นั้นดีที่สุดหรือยัง เรามีคอร์สที่จะช่วยพัฒนาทักษะเฉพาะทางที่น้อง ๆ สามารถนำไปต่อยอดเข้าคณะในฝันได้ นั่นก็คือ Art and Design คอร์สเปิดใหม่ล่าสุดที่ House of Griffin เอาใจสายอาร์ต มีหลากหลายคอร์สให้เลือกมากมายเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับน้อง ๆ ตามความสนใจ ดังนี้
- Drawing วาดเส้น น้อง ๆ จะได้เรียนถึงการใช้แสงเงา การวาดเรขาคณิต การวาดรูปเหมือนต่าง ๆ ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเรียนได้ หรือใครมีพื้นฐานก็มีคอร์สขั้นสูงและคอร์สความคิดสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของน้อง ๆ เพิ่มขึ้นไปอีกค่ะ
- Architecture Design สำหรับคนที่อยากมาสายสถาปัตย์ น้อง ๆ จะได้ฝึกวาดภาพ Landscape และมีการบูรณาการร่วมกับหลักการวาดภาพทัศนียภาพตามหลักการทางสถาปัตยกรรม (Perspectives)
- Interior Design การออกแบบสถาปัตยกรรมภายใน จะได้เรียนรู้การออกแบบการจัดวางภายในอาคาร รวมถึงสถาปัตยกรรมภายในทั้งหมด โดยเป็นการออกแบบผ่านการวาดผังแสดงแนวคิดตามรูปแบบการจัดวางแบบนิยม(Sketch Design)
- Portfolio สำหรับผู้มีพื้นฐานทางศิลปะที่ต้องการศึกษาเทคนิคในการทำงานเฉพาะทางเพิ่มเติม เพื่อสร้างสรรค์และรวบรวมผลงานจัดทำแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ตามความสนใจ ประกอบด้วย ผลงานภาพวาดเส้น ผลงานทางด้านงานสถาปัตยกรรม การออกแบบสถาปัตยกรรมภายใน และการออกแบบนิเทศศิลป์
- Find Yourself คอร์สนี้ถือเป็นคอร์สพิเศษจากทางสถาบันเลย เป็นการเปิดโอกาสให้กับคนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรหรือถนัดอะไรเป็นพิเศษ คอร์สนี้จะเป็นคอร์สที่ค้นหาตัวเอง น้อง ๆ จะได้สัมผัสกับศิลปะแนวต่าง ๆ ในสาขางานต่าง ๆ ทุกรูปแบบเพื่อที่จะได้รู้ว่าเราชอบหรือถนัดศิลปะแขนงไหนนั่นเอง
พี่กริฟฟินอยากชวนให้น้อง ๆ มาเรียนกับทางสถาบัน House of Griffin รับรองว่าพื้นฐานแน่น ได้ฝึกฝนทักษะเฉพาะทางที่สนใจ ไอเดียบรรเจิด เกิดทุกผลงาน พร้อมยื่น Port เข้าคณะในฝันแน่นอน