สอบ ACT VS สอบ CU-ATS แตกต่างกันอย่างไร ควรสอบแบบไหนดี


ACT VS CU-ATS

สอบ ACT หรือ สอบ CU-ATS ดีนะ ทั้งสองข้อสอบนี้ต่างกันตรงไหน ควรเลือกสอบแบบไหนดีกว่ากัน วันนี้พี่กริฟฟินจะมีเปรียบเทียบความแตกต่างในทุกแง่มุมของข้อสอบให้น้อง ๆ เห็นกันชัด ๆ ไปเลยค่ะ เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่กำลังจะตัดสินใจเลือกสอบว่าควรเลือกสอบ ACT หรือ สอบ CU-ATS ดีกว่ากัน เพราะการเลือกสอบที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดจะทำให้มีโอกาสได้คะแนนที่ดีดั่งที่ตั้งใจไว้นั่นเอง แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักแบบคร่าว ๆ ของข้อสอบ ACT และ CU-ATS กันก่อน 

ทำความรู้จักข้อสอบ ACT และ CU-ATS

สอบ ACT คืออะไร หลาย ๆ คนคงมีคำถาม ACT ย่อมาจาก American College Testing เป็นการทดสอบมาตรฐานที่วัดระดับทักษะการใช้เหตุผล ทักษะการวิเคราะห์และทักษะการแก้ไขปัญหา รวมทั้งทักษะการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา คะแนน ACT สามารถใช้สำหรับยื่นสมัครเรียนปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ หรือยื่นเข้ามหาวิทยาลัยในต่างประเทศก็ได้ ข้อสอบ ACT ประกอบไปด้วยพาร์ท English, Mathematic, Reading และ Science Reasoning ส่วน Writing สามารถเลือกได้ว่าจะสอบหรือไม่สอบค่ะ

ACT สอบอะไรบ้าง รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก www.houseofgriffin.com/blog/สอบ-act-คืออะไร/ 


ส่วน CU-ATS ย่อมาจาก Aptitude Test for Science of Chulalongkorn University ใช้สอบเพื่อนำคะแนนยื่นสมัครเข้าเรียนต่อปริญญาตรี ในคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ (International Programs) ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาลัยฯ อื่น ๆ เป็นการทดสอบความถนัดทางด้านวิทยาศาสตร์ โดยเมื่อสมัครไปแล้วจะต้องสอบ 2 วิชา คือ Physics และ Chemistry 

CU-ATS สอบอะไรบ้าง รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก www.houseofgriffin.com/courses/cu-ats/

สอบ ACT และ สอบ CU-ATS แตกต่างกันอย่างไร

วันนี้พี่กริฟฟินจะมาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างการสอบ ACT และสอบ CU-ATS ในทุกแง่มุมเพื่อประกอบการตัดสินใจให้กับน้อง ๆ ว่าควรเลือกสอบแบบไหนดี ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยค่ะ 

ความแตกต่าง ACT VS CU-ATS

สอบ ACT และ สอบ CU-ATS ใช้ยื่นคณะไหนได้บ้าง

ก่อนจะเลือกสอบ ACT หรือสอบ CU-ATS ก่อนอื่นน้อง ๆ จะต้องดูว่าอยากเข้าคณะอะไร มหาวิทยาลัยไหน และทางสถาบันต้องการผลสอบอะไรบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกสอบให้กับน้อง ๆ ซึ่งวันนี้พี่กริฟฟินจะมาสรุปบางคณะมาให้ดังนี้ค่ะ 

คณะที่ต้องใช้ผลสอบ ACT ในการใช้ยื่นพิจารณาศึกษาต่อ

  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคอินเตอร์: BBA, BALAC, ISE, ChPE, BASCii, BBTech
  • มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคอินเตอร์: TEP-TEPE
  • สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์: SIIT
  • มหาวิทยาลัยมหิดล ภาคอินเตอร์: EGCHE
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี: CPE
  • สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง: SIIE, IEC

คณะที่ต้องใช้ผลสอบ CU-ATS ในการใช้ยื่นพิจารณาศึกษาต่อ

  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคอินเตอร์: BSAC, ISE, ChPE
  • สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์: SIIT
  • สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิศวกรรมการบินและนักบินพาณิชย์: KMITL’S AEC

เทียบคะแนนระหว่าง ACT และ CU-ATS สำหรับคณะที่สามารถใช้ผลสอบได้ทั้ง 2 อย่าง

บางคณะสามารถยื่นคะแนนได้ทั้ง ACT และ CU-ATS ดังนั้นพี่กริฟฟินจะมาเปรียบเทียบคะแนนระหว่างการสอบ ACT และ สอบ CU-ATS ให้น้อง ๆ ได้ลองดูเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกสอบอะไรดี ถนัดสอบแบบไหนก็จัดไปเลยค่ะ

เทียบคะแนน ACT VS CU-ATS

สรุปข้อดี ข้อเสียของการสอบ ACT VS สอบ CU-ATS

แน่นอนว่าก่อนที่จะเลือกสอบนั้น น้อง ๆ ต้องศึกษาให้ดีก่อนว่าคณะที่เราอยากเข้าเรียนนั้น ต้องการผลสอบ ACT หรือ CU-ATS แต่ถ้าหากรับทั้งสองอย่าง ระหว่างสอบ ACT และสอบ CU-ATS จะเลือกสอบแบบไหนดี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนว่าถนัดทางด้านวิชาไหนมากกว่ากัน เช่น ISE CU หากน้อง ๆ ถนัดวิชาวิทยาศาสตร์มากกว่า และไม่ถนัดวิชาคณิตศาสตร์ ก็ควรเลือกสอบ CU-ATS ไปเลยค่ะ เนื่องจากน้อง ๆ จะสอบแค่วิชาวิทยาศาสตร์ทั้ง Physic และ Chemistry อย่างเดียว ซึ่งอาจทำให้มีโอกาสได้คะแนนที่มากกว่านั่นเอง 

นอกจากความถนัดทางด้านวิชาการที่จะเป็นตัวตัดสินใจแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ให้น้อง ๆ ได้ลองเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียต่าง ๆ ดังนี้

สอบ ACT 

ข้อดีของการสอบ ACT เลยคือน้อง ๆ สอบครั้งเดียวแต่สามารถยื่นได้ทั้งวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์พร้อมกัน อีกทั้งยังมีรอบสอบที่มากกว่าถึง 7 รอบต่อปี ทำให้น้อง ๆ สามารถบริหารจัดการเวลาได้มากยิ่งขึ้น 

อย่างไรก็ตามข้อเสียของการสอบ ACT พี่กริฟฟินคิดว่าค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง พี่กริฟฟินแนะนำให้น้อง ๆ เตรียมตัวอย่างดีเพื่อให้สามารถสอบผ่านได้ภายในครั้งเดียว อีกทั้งระยะเวลาในการรู้ผลสอบค่อนข้างนานประมาณ 4 สัปดาห์ ซึ่งนานกว่าการรู้ผลสอบของ CU-ATS

สอบ CU-ATS

ข้อดีของการสอบ CU-ATS เหมาะสำหรับคนที่ถนัดวิชาวิทยาศาสตร์ จำนวนคำถามและระยะเวลาการสอบน้อยกว่าการสอบ ACT 

การสอบ CU-ATS ค่อนข้างสะดวกเนื่องจากมีให้เลือกสอบทั้งแบบกระดาษและแบบ E-Testing (บนคอมพิวเตอร์) ซึ่งค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่าการสอบ ACT เป็นเท่าตัว โดยการสอบแบบกระดาษค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่  1,000 บาท และการสอบแบบ E-Testing ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 2,600 บาท อีกทั้งการสอบ CU-ATS แบบกระดาษจะรู้ผลสอบได้ภายใน 2 สัปดาห์ และหากสอบแบบ E-Testing น้อง ๆ จะสามารถรู้ผลสอบได้ทันทีหลังการสอบเสร็จซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการรีบใช้ผลสอบนั่นเอง

แต่ข้อเสียของการสอบ CU-ATS คือ รอบสอบค่อนข้างน้อยเพียง 3-4 รอบต่อปี ดังนั้นแล้วหากใครต้องการสอบ CU-ATS พี่กริฟฟินแนะนำให้บริหารจัดการเวลาดี ๆ เพื่อไม่ให้พลาดในเรื่องของระยะเวลาการสอบค่ะ

ติวสอบ ACT และ สอบ CU-ATS กับ House of Griffin 

ไม่ว่าจะเลือกสอบ ACT หรือ CU-ATS น้อง ๆ ก็ต้องเตรียมตัวติวเข้มอย่างหนักเพราะเกณฑ์คะแนนที่แต่ละคณะรับเข้านั้นไม่ใช่น้อย ๆ แต่พี่กริฟฟินมั่นใจว่าไม่เกินความสามารถน้อง ๆ แน่นอน เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจพี่กริฟฟินแนะนำให้มาติวกับทางสถาบัน House of Griffin ที่มีครบทุกหลักสูตรไม่ว่าจะเป็น ACT หรือ CU-ATS ให้น้อง ๆ ได้เลือกเรียน ทางสถาบันมีทีมอาจารย์ที่มีประสบการณ์โดยตรงคอยติวเข้มให้อย่างใกล้ชิด บอกเคล็ดลับการทำข้อสอบให้อย่างหมดเปลือก รวมไปถึงวิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็งรายบุคคลเพื่อให้แต่ละคนสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างตรงจุด น้อง ๆ สามารถเลือกเรียนได้ไม่ว่าอยากจะเรียนเดี่ยว แบบกลุ่มเล็ก หรือแบบกลุ่มใหญ่ก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ การันตีได้เลยว่าหากมาติวกับทางสถาบัน House of Griffin น้อง ๆ จะสามารถทำคะแนนได้สูงดั่งที่ตั้งใจไว้แน่นอนค่ะ 


ปรึกษาคอร์สติวสอบ ACT Science : www.houseofgriffin.com/courses/act-science/
ปรึกษาคอร์สติวสอบ CU-ATS : www.houseofgriffin.com/courses/cu-ats/
โทร. 0-2644-6006-7
LINE: @houseofgriffin

This image has an empty alt attribute; its file name is image.png