ข้อสอบ IELTS เป็นหนึ่งในการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่หลายอาจติดปัญหาในพาร์ท Speaking ที่ถือเป็นอีกหนึ่งพาร์ทปราบเซียนสำหรับเด็กไทย เพราะไม่กล้าพูด กลัวพูดผิด หรือตื่นเต้นจนนึกคำพูดไม่ออก วันนี้พี่กริฟฟินเลยจะมาแนะนำเกี่ยวกับเกณฑ์การให้คะแนน IELTS Speaking พร้อมแนะนำ 12 ประโยคเด็ดที่สามารถนำเอาไปใช้งานได้จริง เพื่อเป็นไอเดียให้น้อง ๆ ที่กำลังเตรียมตัวพิชิตการสอบ IELTS ได้เอาไปใช้งานกัน
เข้าใจเกณฑ์การให้คะแนนของข้อสอบ IELTS Speaking
ก่อนที่จะเริ่มทำข้อสอบในพาร์ท Speaking พี่กริฟฟินขออธิบายเกณฑ์การให้คะแนนของการสอบ IELTS Speaking ให้ได้ศึกษากันก่อนไปสอบจริง โดยจะมีอยู่ 4 เกณฑ์ ดังนี้
1. Fluency and coherence (ความคล่องและความเชื่อมโยงของเนื้อหา)
การพูดได้อย่างคล่องแคล่วและสามารถเชื่อมโยงเนื้อหาได้อย่างลื่นไหล ซึ่งหากมีการใช้คำเชื่อมในประโยค และคำช่วยอย่างถูกต้องก็จะสามารถเพิ่มคะแนนข้อสอบ IELTS Speaking ในจุดนี้ได้มากเลยทีเดียว
2. Lexical resource (การใช้คำศัพท์ที่หลากหลาย)
สิ่งสำคัญของการสอบ IELTS ในทุกพาร์ท รวมไปถึงพาร์ท Speaking ก็คือการเลือกใช้คำศัพท์และสำนวนที่มีความหลากหลายและเหมาะสมกับบริบทของรูปประโยคและสถานการณ์ที่ยกตัวอย่างขึ้นมา เพราะการใช้คำศัพท์ที่หลากหลายจะทำให้รูปประโยคไม่ซ้ำซากจำเจ และทำให้เรื่องเล่ามีความน่าสนใจยิ่งขึ้น
3. Grammatical range and accuracy (ความถูกต้องของไวยากรณ์)
หลักเกณฑ์สำคัญอีกอย่างของการใช้งานภาษาอังกฤษที่เป็นหลักสำคัญของข้อสอบ IELTS ก็คือ การใช้ไวยากรณ์ได้อย่างถูกต้องทั้งรูปประโยค ไม่ผสม Tense สลับไปมาในประโยคเดียว
4. Pronunciation (การออกเสียง)
การออกเสียงคำศัพท์ได้อย่างชัดเจน เช่น การออกเสียง l และ r ให้มีความแตกต่างกัน การลงเสียงหนัก-เบา การเน้นเสียงและการลดรูปเสียงคำศัพท์ที่ถูกต้อง จะช่วยให้สามารถสื่อความหมายออกมาได้อย่างชัดเจนโดยไม่เกี่ยวกับ “สำเนียง” ของผู้พูด ดังนั้นน้องคนไหนที่พูดอังกฤษแบบติดสำเนียงไทยก็ไม่ต้องกังวลไป หากออกเสียงคำศัพท์ได้อย่างถูกต้องก็จะสามารถช่วยเพิ่มคะแนนข้อสอบ IELTS Speaking ได้อย่างแน่นอน
12 ประโยคทรงพลัง พิชิตข้อสอบ IELTS Speaking พร้อมตัวอย่างการใช้จริง
หลังจากเข้าใจหลักเกณฑ์การให้คะแนนของพาร์ท Speaking แล้ว พี่กริฟฟินจะมาแนะนำ 12 ประโยคเด็ดที่สามารถนำเอาไปใช้งานในการสอบ IELTS Speaking ได้จริงโดยแบ่งตามหมวดการใช้งาน ดังนี้
หมวดการแสดงความคิดเห็น
“From my perspective, …” (จากมุมมองของฉัน…)
“I firmly believe that …” (ฉันเชื่ออย่างหนักแน่นว่า…)
“It seems to me that …” (ดูเหมือนว่าฉัน…)
หมวดการอธิบายเหตุผล
“The main reason for this is …” (เหตุผลหลักสำหรับเรื่องนี้คือ…)
“This can be attributed to …” (สิ่งนี้สามารถนำมาประกอบกับ…)
หมวดการยกตัวอย่าง
“For instance, …” (ตัวอย่างเช่น…)
“A good example of this is …” (ตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้คือ…)
หมวดการเปรียบเทียบ
“Compared to …, … is …” (เมื่อเทียบกับ…, … คือ…)
“While … , … is …” (ในขณะที่…, … คือ…)
หมวดการสรุป
“In conclusion, …” (โดยสรุปแล้ว…)
“To sum up, …” (สรุปได้ว่า…)
“Overall, …” (โดยรวมแล้ว…)
เทคนิคผสมประโยคให้เป็นธรรมชาติใน IELTS Speaking Part 1-3
ข้อสอบ IELTS Speaking จะแบ่งข้อสอบออกเป็น 3 ส่วนย่อย กำหนดเวลาการสอบทั้งหมด 11-14 นาที โดยสามารถนำเอาตัวอย่างประโยคข้างบนไปใช้งานในการตอบคำถามแต่ละส่วนได้เลย
IELTS Speaking Part 1
สำหรับการสอบ IELTS Speaking ในส่วนแรก จะกำหนดเวลาในการสอบประมาณ 4-5 นาที โดยจะให้ผู้สอบแนะนำตัวก่อน จากนั้นผู้คุมสอบจะถามคำถามในเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวันเกี่ยวกับผู้สอบ เช่น สภาพอากาศ ที่พักอาศัย ครอบครัว การเรียน การทำงาน รวมไปถึงความชื่นชอบและความสนใจของผู้สอบ เป็นต้น
โดยการสอบ IELTS Speaking Part 1 จะสามารถนำเอาประโยคเด็ดข้างต้นในหมวดการแสดงความคิดเห็นและการยกตัวอย่างมาใช้ประกอบการตอบคำถามได้
IELTS Speaking Part 2
ถัดมาในการสอบ IELTS Speaking Part 2 จะเป็นการสอบพูดในหัวข้อตามที่โจทย์กำหนด ซึ่งเมื่อเริ่มสอบจะได้รับบัตรคำถาม (Card) ที่มีโจทย์ระบุอยู่พร้อมหัวข้อย่อยที่เป็นตัวช่วยในการตอบคำถาม โดยในส่วนนี้ผู้สอบจะมีเวลาการเตรียมตัวพูด 1 นาที ระหว่างนั้นจะได้กระดาษและดินสอสำหรับจดบันทึกด้วย เมื่อครบเวลาที่กำหนดจะต้องพูดบรรยายเกี่ยวกับหัวข้อที่ได้รับประมาณ 2 นาที
ซึ่งตัวข้อสอบ IELTS Speaking Part 2 ก็สามารถใช้ประโยคด้านบนในการตอบคำถามได้ทั้งในหมวดการอธิบายเหตุผลและยกตัวอย่างประกอบสั้น ๆ เนื่องจากมีเวลาการพูดเพียงแค่ 2 นาที จึงไม่แนะนำให้แสดงความคิดเห็นในส่วนนี้ เพราะอาจไปทับซ้อนกับการตอบในส่วนถัดไป โดยในข้อนี้สามารถใช้กระดาษและดินสอสำหรับจดโน้ตหัวข้อที่เป็นคีย์เวิร์ดสำคัญที่อยากจะพูดเอาไว้ได้
IELTS Speaking Part 3
การสอบ IELTS Speaking ในส่วนสุดท้าย จะใช้เวลาการสอบประมาณ 4-5 นาที ลักษณะข้อคำถามจะเป็นการขยายความและการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อในส่วนที่ 2 เพิ่มเติม โดยผู้คุมสอบจะใช้คำถามปลายเปิดในการถามเพื่อให้ผู้สอบได้วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นในหัวข้อนั้น ๆ แบบเชิงลึกยิ่งขึ้น
สำหรับ IELTS Speaking Part 3 นี้ ก็แนะนำให้เลือกใช้ประโยคเกี่ยวกับการเปรียบเทียบและการสรุปความในการตอบ เสริมด้วยการแสดงความคิดเห็นและการอธิบายเหตุผล เพื่อให้ผู้สอบเห็นว่าหัวข้อที่ยกมาพูดมีน้ำหนักและมีการสรุปความแบบชัดเจนยิ่งขึ้น
แต่การเลือกใช้ประโยคระหว่างการสอบนั้นจะต้องระวังเรื่องการเลือกใช้รูปประโยคซ้ำ ควรใช้ประโยคที่มีความหลากหลายเพื่อแสดงถึงความสามารถทางภาษา นอกจากนี้ยังควรเลือกใช้ประโยคให้เหมาะสมกับบริบทของเรื่องที่จะพูด สอดคล้องกับข้อคำถามและสถานการณ์ รวมถึงเลือกใช้ประโยคที่มีไวยากรณ์แตกต่างกันอย่างถูกต้องและออกเสียงให้ชัดเจนด้วย
ประโยคทางเลือกสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
เมื่อถึงเวลาสอบจริง เชื่อว่าหลายคนอาจรู้สึกตื่นเต้นจนไม่รู้จะตอบอะไร หรือไม่เข้าใจคำถามและต้องการให้ผู้สอบขยายความเพิ่มเติมในกรณีที่ได้หัวข้อสอบ IELTS ที่ไม่คุ้นเคย จนทำให้คิดคำตอบไม่ออก ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นก็สามารถหยิบเอาประโยคพวกนี้ไปใช้เพื่อกู้สถานการณ์ได้เลย
หากต้องการต้องการเวลาคิดให้ใช้ประโยคนี้
“Let me think about that for a moment” (ขอเวลาคิดสักครู่)
“Well, that’s an interesting question.” (เป็นคำถามที่น่าสนใจ)
เมื่อไม่เข้าใจคำถามให้ใช้ประโยคนี้
“I’m sorry, I didn’t get the question. Could you say it again please?” (ขอโทษ ฉันไม่เข้าใจคำถาม คุณช่วยพูดอีกครั้งได้ไหม ?)
“Could you please rephrase the question?” (คุณช่วยสรุปคำถามอีกรอบได้ไหม ?)
เมื่อต้องการขยายความในข้อสอบให้ใช้ประโยคนี้
“Could you explain what you mean by…” (คุณช่วยอธิบายได้ไหมว่า…คืออะไร)
“Could you explain the question, please” (คุณช่วยอธิบายคำถามนี้หน่อยได้ไหม ?)
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้ประโยคแสดงความคิดเห็น
จุดที่หลายคนพลาดบ่อยในการตอบ IELTS Speaking ในประโยคที่ต้องแสดงความคิดเห็น คือหลายคนมักเผลอใช้คำหรือรูปประโยคซ้ำ เช่น อาจใช้คำว่า “In my opinion…” ในการแสดงความเห็นทุกรอบ แนะนำให้ลองฝึกใช้คำที่หลากหลายในการตอบมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ควรเลือกใช้ศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยหรือยากเกินรูปประโยคโดยรวม เพราะจะทำให้การตอบดูไม่ลื่นไหลและรูปประโยคแปลกไปจากที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ยังควรเลี่ยงการใช้คำติดปากอย่าง Like, Umm, You know, Ehh หรือคำศัพท์ที่ไม่สุภาพระหว่างการตอบคำถาม เพราะจะทำให้ผู้คุมสอบหักคะแนนได้
แผนฝึกซ้อม 7 วัน พิชิตข้อสอบ IELTS Speaking
เตรียมตัวให้พร้อม 7 วันก่อนลงสอบสนามจริงด้วยแผนฝึกซ้อมพิชิต IELTS Speaking แบบเร่งรัด โดยแบ่งการฝึกตามวันและหัวข้อในการฝึกซ้อมแต่ละวันได้ ดังนี้
วันที่ 1 : ฝึกใช้สำนวนประโยค เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วและความน่าสนใจในการตอบคำถามของข้อสอบแต่ละ Part รวมไปถึงการใช้สำนวนในการตอบจะช่วยให้การพูดดูคล้ายคลึงกับเจ้าของภาษามากยิ่งขึ้น แต่ต้องระวังเรื่องการใช้งานโดยไม่รู้ความหมายที่แท้จริง จึงควรศึกษาให้เข้าใจก่อนหยิบนำมาใช้งาน
วันที่ 2 : ฝึกใช้ คำศัพท์ และประโยคเกี่ยวกับการอธิบายเหตุผลและยกตัวอย่าง เนื่องจาก IELTS Speaking จะเน้นการยกตัวอย่างประกอบคำอธิบาย การเพิ่มคลังศัพท์และฝึกใช้งานประโยคเหล่านี้ให้บ่อยขึ้นก็จะสามารถตอบคำถามได้อย่างลื่นไหล
วันที่ 3 : ฝึกการเปรียบเทียบและแสดงความคิดเห็น เตรียมพร้อมสำหรับ IELTS Speaking Part 3 เนื่องจากข้อสอบในพาร์ทนี้จะเน้นไปที่การอธิบายเหตุผลเชิงลึกและการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว จึงเหมาะที่จะหยิบเอาประโยคเปรียบเทียบมาใช้งาน
วันที่ 4 : ฝึกการใช้ประโยคในการเล่าเรื่อง ในการสอบ IELTS Speaking จะต้องใช้สกิลในการเล่าเรื่องค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่การบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง ไปจนถึงการแสดงความคิดเห็นและการยกตัวอย่างสถานการณ์ต่าง ๆ ดังนั้นการฝึกใช้งานประโยคในการเล่าเรื่องให้ลื่นไหลจึงสำคัญมาก
วันที่ 5 : ฝึกตอบคำถาม IELTS Speaking Part 1 โดยดูตัวอย่างข้อคำถาม จากนั้นลองฝึกตอบคำถามให้เป็นธรรมชาติในระยะเวลา 4-5 นาที รวมถึงแนะนำให้ยกตัวอย่างประกอบเรื่องที่พูด ไม่ตอบห้วนหรือสั้นจนเกินไป
วันที่ 6 : ฝึกพูดแบบต่อเนื่องสำหรับการตอบ IELTS Speaking Part 2 แนะนำให้ดูตัวอย่างบัตรคำถาม (Card) และฝึกตอบให้กระชับและตรงประเด็นโดยไม่พูดนอกเรื่อง เพราะข้อสอบในส่วนนี้จะกำหนดเวลาการตอบเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้น
วันที่ 7 : ฝึกพูดอธิบายและอภิปรายเพื่อตอบ IELTS Speaking Part 3 โดยขยายความจากหัวข้อในพาร์ทที่ 2 ด้วยการยกตัวอย่างและแสดงความคิดเห็นในเชิงลึกยิ่งขึ้นภายในระยะเวลา 4-5 นาที และอาจดูตัวอย่างคำถามเพื่อเป็นไกด์ในการตอบคำถามในพาร์ทนี้
เทคนิคการจำและการประยุกต์ใช้ประโยคในการสอบ IELTS Speaking
- ตั้งเป้าหมายในการฝึกฝนให้ชัดเจน เช่น กำหนดจำนวนคำศัพท์ที่ต้องการเรียนรู้ในแต่ละวัน หรือกำหนดหัวข้อที่ต้องการฝึกพูดสำหรับการเตรียมตัวทำ IELTS Speaking ในแต่ละวัน
- ฝึกออกเสียงเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการพูด หากไม่ทราบว่าคำศัพท์นี้ออกเสียงอย่างไรก็สามารถฟังเสียงคำอ่านจาก Google และลองฝึกพูดตามจนสามารถออกเสียงได้อย่างชัดเจนและพูดได้อย่างมั่นใจ รวมถึงลองนำเอาคำศัพท์ สำนวนไปใช้งานในประโยคโดยเน้นเสียงคำสำคัญ นอกจากนี้ ในการเชื่อมประโยคระหว่างการฝึกทำข้อสอบอาจลองใช้การลดรูปเสียงเพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
- ใช้ซ้ำและทบทวนเป็นประจำ ทบทวนคำศัพท์ สำนวนใหม่ รวมไปถึงฝึกใช้งานคำศัพท์เดิมที่เคยเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ โดยเชื่อมโยงคำศัพท์ที่เรียนรู้เข้ากับประสบการณ์ส่วนตัว หรือหัวข้อที่สนใจและคุ้นเคยเพื่อให้สามารถใช้งานในการทำข้อสอบได้อย่างลื่นไหล
- ศึกษาการใช้งานรูปประโยคให้เป็นธรรมชาติในสถานการณ์จริง โดยอาจเลือกดูหนัง ฟังพอดแคสต์ ดูข่าวต่างประเทศ หรือดูคลิปแนะนำการทำข้อสอบจากหลายแหล่ง แล้วนำมาวิเคราะห์และจดบันทึกลักษณะการเลือกใช้ประโยคในการพูด แต่ต้องระวังเรื่องการติดใช้คำแสลงที่ไม่สุภาพด้วย
- ลองดูตัวอย่าง IELTS Speaking ปีก่อน ๆ แล้วฝึกตอบคำถามตามหัวข้อ โดยอัดเสียงและจับเวลาระหว่างการตอบแต่ละครั้งเอาไว้ เพื่อเอามาฟังย้อนหลังและพัฒนาปรับปรุงการเลือกใช้คำและไวยากรณ์ให้มีความถูกต้องและหลากหลายยิ่งขึ้น รวมถึงสอดแทรกการใช้งานประโยคช่วยอธิบายสถานการณ์ในการตอบคำถามให้น่าสนใจยิ่งขึ้น
- ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้วยการลงติวสอบ IELTS รับคำแนะนำจากครูผู้เชี่ยวชาญที่รู้จักกับข้อสอบเป็นอย่างดี พัฒนาทักษะการพูดอย่างตรงจุดพร้อมเก็บเทคนิคการทำข้อสอบทุกพาร์ทได้อย่างมั่นใจ
ติว IELTS ที่ House of Griffin อุ่นใจกว่า
น้องคนไหนที่อยากลงคอร์สติวเพื่อเตรียมพร้อมก่อนทำข้อสอบ IELTS ขอแนะนำให้ลงติวกับ House of Griffin สถาบันติว IELTS ตัวแทน IDP Education อย่างเป็นทางการ เจาะลึกทุกสกิลทั้ง 4 ด้าน ครอบคลุมการสอบทั้งทุกพาร์ทแบบเน้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฟัง (Listening), การพูด (Speaking), การอ่าน (Reading) และการเขียน (Writing) พร้อมเก็บเทคนิคพิชิต IELTS Speaking เพิ่มคลังศัพท์แบบจัดเต็มและเสริมเคล็ดลับการสอบ IELTS ให้ผ่านตั้งแต่ครั้งแรก คว้าผลสอบ IELTS 6.0 ขึ้นไปได้อย่างมั่นใจ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่สถาบันกำหนด)