Skip to content

เรียน SAT ที่ไหนดี เพื่อพิชิตคณะอินเตอร์ที่ฝัน

    • Math Test – No Calculator อีก 20 ข้อ 

Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

      • Reading 52 ข้อ

      • Writing and Language 44 ข้อ จาก 4 บทความ

    เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

    เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

    น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

    ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

    เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

    1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
    2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
    3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
    4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
    5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

    หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

    SAT Math (800 คะแนน)

    มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

      • Math Test – Calculator มี 38 ข้อ ตอบผิดได้ไม่ติดลบ

      • Math Test – No Calculator อีก 20 ข้อ 

    Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

      • Reading 52 ข้อ

      • Writing and Language 44 ข้อ จาก 4 บทความ

    เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

    เรียน-SAT-ที่ไหนดี

    เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

    น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

    ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

    เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

    1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
    2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
    3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
    4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
    5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

    หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

    เรียน-SAT-ที่ไหนดี

    เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

    น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

    ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

    เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

    1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
    2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
    3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
    4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
    5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

    หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

    SAT Math (800 คะแนน)

    มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

    Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

    เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

    เรียน-SAT-ที่ไหนดี

    เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

    น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

    ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

    เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

    1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
    2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
    3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
    4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
    5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

    หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

    Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

    เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

    เรียน-SAT-ที่ไหนดี

    เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

    น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

    ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

    เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

    1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
    2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
    3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
    4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
    5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

    หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

    SAT Math (800 คะแนน)

    มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

    Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

    เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

    เรียน-SAT-ที่ไหนดี

    เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

    น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

    ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

    เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

    1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
    2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
    3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
    4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
    5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

    หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

    Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

    เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

    เรียน-SAT-ที่ไหนดี

    เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

    น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

    ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

    เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

    1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
    2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
    3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
    4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
    5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

    หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

    SAT Math (800 คะแนน)

    มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

    Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

    เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

    เรียน-SAT-ที่ไหนดี

    เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

    น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

    ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

    เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

    1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
    2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
    3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
    4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
    5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

    หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

    เรียน-SAT-ที่ไหนดี

    เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

    น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

    ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

    เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

    1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
    2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
    3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
    4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
    5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

    หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

      SAT Math (800 คะแนน)

      มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

      Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

      เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

      เรียน-SAT-ที่ไหนดี

      เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

      น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

      ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

      เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

      1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
      2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
      3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
      4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
      5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

      หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

      SAT Math (800 คะแนน)

      มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

      Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

      เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

      เรียน-SAT-ที่ไหนดี

      เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

      น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

      ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

      เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

      1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
      2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
      3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
      4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
      5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

      หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

      Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

      เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

      เรียน-SAT-ที่ไหนดี

      เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

      น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

      ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

      เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

      1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
      2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
      3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
      4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
      5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

      หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

        SAT Math (800 คะแนน)

        มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

        Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

        เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

        เรียน-SAT-ที่ไหนดี

        เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

        น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

        ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

        เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

        1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
        2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
        3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
        4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
        5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

        หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

        SAT Math (800 คะแนน)

        มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

        Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

        เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

        เรียน-SAT-ที่ไหนดี

        เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

        น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

        ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

        เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

        1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
        2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
        3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
        4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
        5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

        หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

        เรียน-SAT-ที่ไหนดี

        เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

        น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

        ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

        เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

        1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
        2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
        3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
        4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
        5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

        หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

        SAT Math (800 คะแนน)

        มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

        Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

        เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

        เรียน-SAT-ที่ไหนดี

        เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

        น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

        ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

        เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

        1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
        2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
        3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
        4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
        5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

        หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

          SAT Math (800 คะแนน)

          มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

          Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

          เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

          เรียน-SAT-ที่ไหนดี

          เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

          น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

          ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

          เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

          1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
          2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
          3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
          4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
          5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

          หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

          SAT Math (800 คะแนน)

          มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

          Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

          เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

          เรียน-SAT-ที่ไหนดี

          เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

          น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

          ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

          เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

          1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
          2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
          3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
          4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
          5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

          หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

          เรียน-SAT-ที่ไหนดี

          เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วตกลง SAT คืออะไร สำคัญอย่างไร? วันนี้เรามีคำตอบ

          เมื่อในปัจจุบันมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เริ่มเปิดหลักสูตรนานาชาติหรือหลักสูตรอินเตอร์กันมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของเทรนด์ตลาดโลกที่เปลี่ยนไป รวมถึงตอบสนองต่อนโยบายบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการบุคคลากรที่มีความสามารถทางภาษาอังกฤษ การเรียนหลักสูตรอินเตอร์จึงเป็นตัวเลือกต้น ๆ สำหรับทั้งผู้ปกครองและนักเรียนยุคใหม่เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าถึงโอกาสที่มากกว่าในอนาคตทั้งในแง่มุมของแนวความคิด การอยู่ร่วมและปรับตัวเข้ากับผู้คนจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ไปจนถึงโอกาสในการเข้าทำงานทั้งกับบริษัทชั้นนำในไทย บริษัทต่างชาติ ไปจนถึงไปทำงานที่ต่างประเทศอีกด้วย

          นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ปัจจุบันนี้หลักสูตรอินเตอร์กลายเป็นหลักสูตรยอดฮิตที่มีอัตราการแข่งขันค่อนข้างสูงมาก และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี ยิ่งถ้าน้อง ๆ กำลังเล็งคณะอินเตอร์ จากมหาวิทยาลัยระดับ TOP ไว้แล้ว พี่กริฟฟินแนะนำเลยว่าต้องเตรียมตัวกันแต่เนิ่น ๆ ซึ่งหนึ่งในข้อสอบที่นักเรียนจะต้องเตรียมตัวแข่งขันกันก็คือการสอบ SAT นี่เองที่หลาย ๆ คนต่างถามว่า แล้วจะเรียน SAT ที่ไหนดีให้มั่นใจว่าไม่พลาด ไม่อย่างนั้นรอไปอีกเป็นปีคงเสียดายเวลาแย่

          การสอบเข้าเรียนคณะอินเตอร์ โดยส่วนมากจะไม่ใช่ gat pat หรือ 9 วิชาสามัญแต่จะใช้การสอบวัดระดับภาษาเป็นหลัก ซึ่งได้แก่ SAT, GSAT, หรือ CU-AAT ซึ่งเป็นข้อสอบวัดระดับภาษาและทักษะทางด้านคณิตศาสตร์และตรรกะ ร่วมกับ IELTS, TOEFL, CU-TEP หรือ TU-GET ซึ่งเป็นข้อสอบวัดระดับภาษาโดยตรงที่เน้นทดสอบทักษะภาษาอังกฤษอย่างครบถ้วนเป็นหลัก โดยข้อสอบ GSAT, CU-AAT, CU-TEP และ TU-GET จะเป็นข้อสอบที่ออกโดยมหาวิทยาลัยนั้น ๆ เช่นจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ ฯลฯ ดังนั้นน้อง ๆ จึงควรเช็คข้อมูลดูก่อนว่าคณะและมหาวิทยาลัยที่เราต้องการเข้าเรียนนั้นต้องการคะแนนของผลสอบวัดระดับตัวไหนบ้างและใช้คะแนนเท่าไหร่ 

          วันนี้พี่กริฟฟินจะข้อยกตัวอย่างหนึ่งในเกณฑ์ที่นิยมนำมาใช้ ซึ่งก็คือคะแนนสอบ SAT สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่า SAT คือ อะไร สามารถอ่านข้อมูลอย่างละเอียดได้ที่ SAT คืออะไร

          หากจะให้สรุปสั้น ๆ SAT คือ “ข้อสอบมาตรฐานที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริการวมถึงคณะอินเตอร์ในประเทศไทยใช้เพื่อวัดระดับผู้สอบสำหรับการเรียนต่อระดับปริญญาตรี” มีเวลาให้ทำข้อสอบทั้งสิ้น 3 ชั่วโมง

          ข้อสอบ SAT จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คะแนนเต็มส่วนละ 800 รวมเป็นทั้งหมด 1,600 คะแนน น้อง ๆ หลายคนที่กำลังค้นหาว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี ควรพิจารณาถึงจุดเด่นในการสอนของแต่ละสถาบันที่เหมาะกับตัวเอง รวมถึงความละเอียดในการใส่ใจต่อผู้เรียนที่อาจแตกต่างกันไปอีกด้วย

          ข้อสอบ SAT 2 ส่วน: 

            • Math Test – No Calculator อีก 20 ข้อ 

          Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

              • Reading 52 ข้อ

              • Writing and Language 44 ข้อ จาก 4 บทความ

            เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

            เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

            น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

            ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

            เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

            1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
            2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
            3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
            4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
            5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

            หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

            Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

            เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

            เรียน-SAT-ที่ไหนดี

            เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

            น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

            ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

            เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

            1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
            2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
            3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
            4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
            5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

            หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

            SAT Math (800 คะแนน)

            มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

            Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

            เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

            เรียน-SAT-ที่ไหนดี

            เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

            น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

            ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

            เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

            1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
            2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
            3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
            4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
            5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

            หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

              SAT Math (800 คะแนน)

              มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

              Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

              เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

              เรียน-SAT-ที่ไหนดี

              เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

              น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

              ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

              เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

              1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
              2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
              3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
              4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
              5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

              หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

              SAT Math (800 คะแนน)

              มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

              Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

              เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

              เรียน-SAT-ที่ไหนดี

              เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

              น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

              ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

              เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

              1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
              2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
              3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
              4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
              5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

              หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

              เรียน-SAT-ที่ไหนดี

              เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วตกลง SAT คืออะไร สำคัญอย่างไร? วันนี้เรามีคำตอบ

              เมื่อในปัจจุบันมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เริ่มเปิดหลักสูตรนานาชาติหรือหลักสูตรอินเตอร์กันมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของเทรนด์ตลาดโลกที่เปลี่ยนไป รวมถึงตอบสนองต่อนโยบายบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการบุคคลากรที่มีความสามารถทางภาษาอังกฤษ การเรียนหลักสูตรอินเตอร์จึงเป็นตัวเลือกต้น ๆ สำหรับทั้งผู้ปกครองและนักเรียนยุคใหม่เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าถึงโอกาสที่มากกว่าในอนาคตทั้งในแง่มุมของแนวความคิด การอยู่ร่วมและปรับตัวเข้ากับผู้คนจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ไปจนถึงโอกาสในการเข้าทำงานทั้งกับบริษัทชั้นนำในไทย บริษัทต่างชาติ ไปจนถึงไปทำงานที่ต่างประเทศอีกด้วย

              นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ปัจจุบันนี้หลักสูตรอินเตอร์กลายเป็นหลักสูตรยอดฮิตที่มีอัตราการแข่งขันค่อนข้างสูงมาก และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี ยิ่งถ้าน้อง ๆ กำลังเล็งคณะอินเตอร์ จากมหาวิทยาลัยระดับ TOP ไว้แล้ว พี่กริฟฟินแนะนำเลยว่าต้องเตรียมตัวกันแต่เนิ่น ๆ ซึ่งหนึ่งในข้อสอบที่นักเรียนจะต้องเตรียมตัวแข่งขันกันก็คือการสอบ SAT นี่เองที่หลาย ๆ คนต่างถามว่า แล้วจะเรียน SAT ที่ไหนดีให้มั่นใจว่าไม่พลาด ไม่อย่างนั้นรอไปอีกเป็นปีคงเสียดายเวลาแย่

              การสอบเข้าเรียนคณะอินเตอร์ โดยส่วนมากจะไม่ใช่ gat pat หรือ 9 วิชาสามัญแต่จะใช้การสอบวัดระดับภาษาเป็นหลัก ซึ่งได้แก่ SAT, GSAT, หรือ CU-AAT ซึ่งเป็นข้อสอบวัดระดับภาษาและทักษะทางด้านคณิตศาสตร์และตรรกะ ร่วมกับ IELTS, TOEFL, CU-TEP หรือ TU-GET ซึ่งเป็นข้อสอบวัดระดับภาษาโดยตรงที่เน้นทดสอบทักษะภาษาอังกฤษอย่างครบถ้วนเป็นหลัก โดยข้อสอบ GSAT, CU-AAT, CU-TEP และ TU-GET จะเป็นข้อสอบที่ออกโดยมหาวิทยาลัยนั้น ๆ เช่นจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ ฯลฯ ดังนั้นน้อง ๆ จึงควรเช็คข้อมูลดูก่อนว่าคณะและมหาวิทยาลัยที่เราต้องการเข้าเรียนนั้นต้องการคะแนนของผลสอบวัดระดับตัวไหนบ้างและใช้คะแนนเท่าไหร่ 

              วันนี้พี่กริฟฟินจะข้อยกตัวอย่างหนึ่งในเกณฑ์ที่นิยมนำมาใช้ ซึ่งก็คือคะแนนสอบ SAT สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่า SAT คือ อะไร สามารถอ่านข้อมูลอย่างละเอียดได้ที่ SAT คืออะไร

              หากจะให้สรุปสั้น ๆ SAT คือ “ข้อสอบมาตรฐานที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริการวมถึงคณะอินเตอร์ในประเทศไทยใช้เพื่อวัดระดับผู้สอบสำหรับการเรียนต่อระดับปริญญาตรี” มีเวลาให้ทำข้อสอบทั้งสิ้น 3 ชั่วโมง

              ข้อสอบ SAT จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คะแนนเต็มส่วนละ 800 รวมเป็นทั้งหมด 1,600 คะแนน น้อง ๆ หลายคนที่กำลังค้นหาว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี ควรพิจารณาถึงจุดเด่นในการสอนของแต่ละสถาบันที่เหมาะกับตัวเอง รวมถึงความละเอียดในการใส่ใจต่อผู้เรียนที่อาจแตกต่างกันไปอีกด้วย

              ข้อสอบ SAT 2 ส่วน: 

                • Math Test – No Calculator อีก 20 ข้อ 

              Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

                  • Reading 52 ข้อ

                  • Writing and Language 44 ข้อ จาก 4 บทความ

                เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

                เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

                น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

                ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

                เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

                1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
                2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
                3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
                4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
                5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

                หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

                Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

                เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

                เรียน-SAT-ที่ไหนดี

                เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

                น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

                ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

                เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

                1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
                2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
                3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
                4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
                5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

                หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

                SAT Math (800 คะแนน)

                มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

                Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

                เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

                เรียน-SAT-ที่ไหนดี

                เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

                น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

                ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

                เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

                1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
                2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
                3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
                4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
                5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

                หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

                  SAT Math (800 คะแนน)

                  มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

                  Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

                  เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

                  เรียน-SAT-ที่ไหนดี

                  เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

                  น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

                  ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

                  เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

                  1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
                  2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
                  3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
                  4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
                  5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

                  หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

                  SAT Math (800 คะแนน)

                  มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

                  Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

                  เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง 

                  เรียน-SAT-ที่ไหนดี

                  เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? 

                  น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน 

                  ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

                  เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

                  1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
                  2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
                  3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง 
                  4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
                  5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

                  หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

                  Share this article