Skip to content

ข้อสอบ GED RLA คืออะไร เตรียมสอบอย่างไรให้ได้คะแนนเต็ม

ข้อสอบ GED RLA คืออะไร เตรียมสอบอย่างไรให้ได้คะแนนเต็ม

สำหรับใครที่อยากสอบเทียบม. 6 ด้วยวุฒิ GED แต่ยังมีความกังวลเรื่องทักษะด้านภาษาอังกฤษของตัวเอง พี่กริฟฟินอยากแนะนำให้ลองอ่านบทความนี้ก่อนเตรียมตัวสอบจริง เพื่อที่น้อง ๆ จะได้มีข้อมูลเกี่ยวกับการสอบ GED RLA มากขึ้น ตั้งแต่ข้อสอบ GED RLA คืออะไร, สอบอะไรบ้าง, ระยะเวลาการสอบ, วิธีสมัครสอบ ตลอดจนเทคนิคการเตรียมตัวสอบ GED RLA แบบผ่านฉลุย

ข้อสอบ GED RLA คืออะไร

GED RLA คือ ข้อสอบ GED รายวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่ง RLA นั้นจะย่อมาจาก Reasoning Through Language Arts เป็นข้อสอบวัดทักษะการใช้เหตุผลทางภาษาในการสื่อสารผ่านการอ่าน (Reading) และการเขียน (Writing) ภาษาอังกฤษ กำหนดเวลาการสอบ 150 นาที มีคะแนนเต็มทั้งหมด 200 คะแนน โดยจะกำหนดเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำอยู่ที่ 145 คะแนนขึ้นไป (อาจมีมหาวิทยาลัยบางแห่งกำหนดคะแนนขั้นต่ำที่แตกต่างออกไป น้อง ๆ อย่าลืมตรวจสอบกับทางคณะอีกครั้ง)

รูปแบบข้อสอบ GED RLA เป็นยังไง

โจทย์ของ GED RLA เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ลักษณะข้อสอบจะมีทั้งหมด 4 รูปแบบ ดังนี้

1. แบบเลือกตอบ (Choice)

คำถามประเภทนี้จะเป็นคำถามที่พบบ่อยที่สุด ผู้สอบจะต้องทำการเลือกคำตอบที่ถูกต้องเพียง 1 ข้อ จากตัวเลือกทั้งหมด

2. แบบเลือกคำตอบแบบ Drop-down

ข้อสอบรูปแบบนี้จะคล้ายกับข้อสอบแบบเลือกตอบ (Choice) แต่ภายใน 1 ข้อจะมีจุดให้เลือกตอบมากกว่า 1 จุด โดยคำถามจะเป็นข้อความหรือคำศัพท์แบบ Drop-down ที่ผู้สอบจะต้องเลือกคำตอบที่ถูกต้องทั้งหมดตามจำนวนที่โจทย์ระบุ

3. แบบลากตอบ (Drag-and-drop)

โจทย์ประเภทนี้จะให้ผู้สอบทำการลากคำตอบไปวางลงในช่องคำตอบให้ถูกต้อง โดยอาจเป็นคำศัพท์, ประโยค, วลี หรือการเรียงลำดับเหตุการณ์ และมักจะมีจุดที่ต้องลากคำตอบไปวางมากกว่า 1 จุดเพื่อทำให้คำตอบสมบูรณ์

4. แบบเขียนตอบ (Extended-Response)

คำถามประเภทนี้จะมีข้อความ (Passage) รูปกราฟิกประกอบ หรือคำถามแบบผสมผสานรูปกราฟิกและข้อความกำหนดมาให้ และผู้สอบจะต้องทำการเขียน Essay เพื่อตอบคำถามตามที่ระบุเอาไว้

ข้อสอบ GED RLA มีกี่ข้อ สอบอะไรบ้าง พร้อมตัวอย่างข้อสอบ

ข้อสอบ GED RLA จะมีจำนวนคำถามทั้งหมด 46 ข้อ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ พาร์ทการอ่าน (Reading) จำนวน 45 ข้อ และพาร์ทการเขียน (Writing) ที่เรียกว่า Extended Response จำนวน 1 ข้อ 

GED RLA (Reading)

สำหรับในพาร์ทการอ่าน (Reading) จะเป็นการผสมผสานข้อสอบทุกรูปแบบยกเว้นส่วน Extended-Response ข้อคำถามจะมาจาก Passage ที่โจทย์ระบุมาให้ ซึ่งจะมีตั้งแต่บทสนทนาทั่วไป, วรรณกรรม, บทความวิชาการเชิงวิทยาศาสตร์, สังคมศาสตร์ ไปจนถึงกฎหมายและบุคคลสำคัญต่าง ๆ โดยข้อสอบพาร์ทนี้จะมีสัดส่วนคิดเป็น 75-80% ของข้อสอบทั้งหมด สามารถแบ่งเนื้อหาการสอบออกเป็น 3 หัวข้อ ดังนี้

แบบ Reading for Meaning (การอ่านจับใจความ)

ข้อคำถาม GED RLA คือรูปแบบที่จะเน้นไปยังการจับใจความสำคัญ วัดความเข้าใจในบริบท การตีความหมายแฝงของวลี สำนวน และคำศัพท์ภายในโจทย์ รวมไปถึงทำการวิเคราะห์จุดประสงค์และมุมมองของผู้เขียนออกมาได้เป็นอย่างดี

แบบ Grammar and Language (การใช้งานภาษาและไวยากรณ์)

ตัวโจทย์ GED RLA ประเภทนี้จะวัดความเข้าใจด้านการใช้งานภาษาและไวยากรณ์ของผู้สอบ วิเคราะห์โครงสร้างประโยค, การเว้นวรรค, การสะกดคำ, การใช้ตัวใหญ่-เล็กในระหว่างประโยค รวมไปถึงการใช้เครื่องหมายต่าง ๆ ทั้งในโจทย์และตัวเลือกคำตอบ

แบบ Identifying and Creating Arguments (การวิเคราะห์และหาข้อโต้แย้ง)

โจทย์ GED RLA รูปแบบนี้จะให้ผู้สอบทำการวิเคราะห์และเชื่อมโยงเรื่องราวที่ระบุมาให้บนพื้นฐานของความเป็นเหตุเป็นผล มองหาข้อโต้แย้งหรือจุดผิดพลาดในข้อคำถามที่นำไปสู่คำตอบได้

GED RLA (Writing)

ในส่วนของข้อสอบในพาร์ทการเขียน (Writing) จะเรียกว่า Extended-Response โจทย์จะมี Passage ให้อ่าน 2 เรื่องที่เป็นบทความในเชิงโต้แย้งกัน และผู้สอบจะต้องทำการเขียน Essay เพื่อเปรียบเทียบ Argumentative Passage ที่โจทย์ระบุให้โดยยกเหตุผลมาประกอบอย่างชัดเจน ข้อสอบในส่วนนี้จะไม่เน้นการแสดงความคิดเห็น (Opinion) ของผู้สอบ แต่จะให้ยกข้อความใน Passage มาเขียนประกอบเหตุผล โดยในข้อสอบจะมีเครื่องมือช่วยคัดลอกและตัดข้อความมาใส่ในช่องคำตอบด้วย ข้อสอบ GED RLA (Writing) จะกำหนดเวลาทำสอบที่ 45 นาที โดยคะแนนจะคิดเป็น 20-25% ของสัดส่วนคะแนน GED RLA ทั้งหมด

ตัวอย่างข้อสอบ GED RLA (Writing) (ขอข้อสอบตัวอย่างค่ะ)

ค่าสอบ GED RLA

ก่อนที่น้องแต่ละคนจะสมัครสอบ GED RLA สิ่งแรกที่ต้องทำเลยจะเป็นการสอบ GED Ready ของรายวิชา RLA ให้ผ่านเสียก่อนจึงจะสามารถลงสมัครสอบ GED RLA ในรอบจริงได้ โดยการสอบ GED Ready จะสามารถสมัครสอบด้วยตัวเองได้ทุกที่ ทุกเวลาตามที่สะดวก ซึ่งอัตราค่าสมัครสอบ GED Ready เฉพาะรายวิชา RLA จะมีค่าสมัครสอบอยู่ที่ 7.99 USD แต่น้อง ๆ สามารถเลือกสอบ GED Ready แบบรวดเดียว 4 รายวิชา ในราคาเพียง 25.99 USD ได้ (การลงสอบแบบ Bundle จะประหยัดไป 5.97 USD) หลังจากสอบ GED Ready ผ่านเป็นที่เรียบร้อย น้อง ๆ ก็สามารถลงสมัครสอบ GED ในรอบจริง โดยมีค่าสมัครสอบ GED RLA จะอยู่ที่ 80 USD (ไม่มีส่วนลดในกรณีสมัครสอบ 4 รายวิชาพร้อมกัน)

ตารางสอบ GED RLA

การจัดสอบทุกวันจันทร์ – เสาร์ ตั้งแต่ 9:00 – 16:00 น. 

สมัครสอบ GED RLA ยังไง

สามารถสมัครสอบ GED RLA ด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ www.ged.com โดยหลังจากลงทะเบียนสร้างบัญชีและกรอกประวัติส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยและดำเนินการสอบ GED Ready จนผ่านก็จะปรากฏตัวเลือกให้ลงสมัครสอบรอบจริงได้ ทั้งนี้ การสอบ GED ในรอบสอบจริงจะมีการจัดสอบที่สนามสอบ GED เท่านั้น โดยสามารถอ่านรายละเอียดวิธีการสมัครสอบ GED และรายชื่อสนามสอบ GED ในประเทศไทยได้ ที่นี่

5 เทคนิค เตรียมพิชิตข้อสอบ GED RLA ให้ได้คะแนนเต็ม

สำหรับใครที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอยากที่จะสอบ GED RLA แบบได้คะแนนเต็ม พี่กริฟฟินก็มีเคล็ด (ไม่) ลับมาฝากกันด้วย ลองทำตามวิธีนี้ดู สอบผ่านฉลุยแน่นอน

5 เทคนิคพิชิต ข้อสอบ GED RLA

เทคนิค 1 ฝึกอ่านบทความภาษาอังกฤษให้หลากหลาย

ตัว Passage ในข้อสอบจะประกอบไปด้วยเนื้อหาที่หลากหลาย ทั้งข้อมูลที่เป็นเรื่องแต่งขึ้นและข้อเท็จจริงในรูปแบบบทความวิชาการ ดังนั้นจึงควรฝึกอ่านบทความภาษาอังกฤษเยอะ ๆ โดยอาจเริ่มจากการอ่านข่าว หรือหาบทความในเรื่องที่สนใจเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อเจอคำศัพท์ใหม่ที่ไม่คุ้นเคยก็หยิบสมุดขึ้นมาจดเอาไว้หาความหมายและนำมาท่องเพื่อขยายคลังคำศัพท์ของเราให้มากยิ่งขึ้น

เทคนิค 2 วิเคราะห์เรื่องที่อ่านและฝึกตั้งคำถาม

น้อง ๆ สามารถอ่านเรื่องราวที่สนใจไปพร้อมกับการฝึกวิเคราะห์ตัวละครและเนื้อหาบทความไปในคราวเดียวกันเพื่อเป็นการฝึกการทำข้อสอบ GED RLA อีกทางหนึ่งได้ โดยใช้หลักการง่าย ๆ เช่น

  • ฝึกตั้งคำถามแบบ WH Question (Who, What, Where, When, Why, How) ในเรื่องราวที่อ่าน (ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร)
  • ตีความสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกันด้วยเหตุและผล (How does/ did it happen? How does/ did it work? How is/ was it used? What is the effect?) สถานการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นได้อย่างไร คำศัพท์นี้ใช้งานอย่างไร เมื่อเกิดสิ่งนี้แล้วส่งผลให้เรื่องดำเนินไปในทิศทางไหน

เทคนิค 3 ฝึกอ่านแบบ Skimming & Scanning

โจทย์ของข้อสอบ GED RLA จะมาในรูปแบบ Passage ที่ส่วนใหญ่แล้วจะมีความยาวในระดับหนึ่ง จึงแนะนำให้ลองฝึกอ่านโจทย์แบบไว ๆ (Skimming) ในรอบแรกโดยจับ Keyword สำคัญในเรื่องและฝึกการใช้ Syntax Clues เพื่อทำความเข้าใจกับเนื้อหาโดยรวมในภาพกว้าง โดยอาจจะไฮไลต์ประโยคสำคัญเอาไว้เพื่อกลับมาอ่านแบบละเอียด (Scanning) อีกครั้งหนึ่งในกรณีที่คำถามมีความกำกวมที่ต้องใช้การทำความเข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง วิธีนี้จะช่วยให้สามารถประหยัดเวลาการทำสอบได้มาก แต่ต้องระวังเรื่องการอ่านข้ามข้อมูลสำคัญด้วยเช่นกัน

เทคนิค 4 ฝึกเขียนสรุปเรื่องราวที่อ่าน

การสอบ GED RLA นั้นมีทั้งข้อสอบในส่วนที่เป็นพาร์ทการอ่าน (Reading) และพาร์ทการเขียน (Writing) หรือที่เรียกว่า Extened-Response ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้น้องแต่ละคนลองฝึกเขียนสรุปเรื่องราวที่ได้อ่านออกมาเป็น Essay เพื่อฝึกทักษะด้านการเขียนควบคู่กันไป

เทคนิค 5 ฝึกทำข้อสอบและจับเวลาขณะฝึก

นอกจากฝึกอ่านและเขียนสรุปบทความทั่วไปแล้ว น้องแต่ละคนอาจลองฝึกทำข้อสอบ GED RLA ใน เว็บไซต์ฝึกทำข้อสอบ GED Practice Test และจับเวลาตามจริงเพื่อฝึกการบริหารเวลาขณะทำข้อสอบไปพร้อมกัน

ติวสอบ GED RLA กับ House of Griffin

ถ้าใครอยากสอบ GED RLA ผ่านแบบคว้าคะแนนเต็ม ขอแนะนำให้ลงคอร์สติว GED กับผู้เชี่ยวชาญ อย่าง House of Griffin สถาบันติวสอบ GED ที่มีประสบการณ์กว่า 14 ปี การันตีสอบผ่าน 100% ด้วยคะแนนมากกว่า 145/200 ในทุกวิชาภายใน 2 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่สถาบันกำหนด) ติวเจาะลึกจัดเต็มทุกรายวิชา ทั้ง GED RLA (Reasoning Through Language Arts), GED Math, GED Social และ GED Science

Share this article