Skip to content

เรียน SAT ที่ไหนดี เพื่อพิชิตคณะอินเตอร์ที่ฝัน

เรียน-SAT-ที่ไหนดี

เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วตกลง SAT คืออะไร สำคัญอย่างไร? วันนี้เรามีคำตอบ

เมื่อในปัจจุบันมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เริ่มเปิดหลักสูตรนานาชาติหรือหลักสูตรอินเตอร์กันมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของเทรนด์ตลาดโลกที่เปลี่ยนไป รวมถึงตอบสนองต่อนโยบายบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการบุคคลากรที่มีความสามารถทางภาษาอังกฤษ การเรียนหลักสูตรอินเตอร์จึงเป็นตัวเลือกต้น ๆ สำหรับทั้งผู้ปกครองและนักเรียนยุคใหม่เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าถึงโอกาสที่มากกว่าในอนาคตทั้งในแง่มุมของแนวความคิด การอยู่ร่วมและปรับตัวเข้ากับผู้คนจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ไปจนถึงโอกาสในการเข้าทำงานทั้งกับบริษัทชั้นนำในไทย บริษัทต่างชาติ ไปจนถึงไปทำงานที่ต่างประเทศอีกด้วย

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ปัจจุบันนี้หลักสูตรอินเตอร์กลายเป็นหลักสูตรยอดฮิตที่มีอัตราการแข่งขันค่อนข้างสูงมาก และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี ยิ่งถ้าน้อง ๆ กำลังเล็งคณะอินเตอร์ จากมหาวิทยาลัยระดับ TOP ไว้แล้ว พี่กริฟฟินแนะนำเลยว่าต้องเตรียมตัวกันแต่เนิ่น ๆ ซึ่งหนึ่งในข้อสอบที่นักเรียนจะต้องเตรียมตัวแข่งขันกันก็คือการสอบ SAT นี่เองที่หลาย ๆ คนต่างถามว่า แล้วจะเรียน SAT ที่ไหนดีให้มั่นใจว่าไม่พลาด ไม่อย่างนั้นรอไปอีกเป็นปีคงเสียดายเวลาแย่

การสอบเข้าเรียนคณะอินเตอร์ โดยส่วนมากจะไม่ใช่ gat pat หรือ 9 วิชาสามัญแต่จะใช้การสอบวัดระดับภาษาเป็นหลัก ซึ่งได้แก่ SAT, GSAT, หรือ CU-AAT ซึ่งเป็นข้อสอบวัดระดับภาษาและทักษะทางด้านคณิตศาสตร์และตรรกะ ร่วมกับ IELTS, TOEFL, CU-TEP หรือ TU-GET ซึ่งเป็นข้อสอบวัดระดับภาษาโดยตรงที่เน้นทดสอบทักษะภาษาอังกฤษอย่างครบถ้วนเป็นหลัก โดยข้อสอบ GSAT, CU-AAT, CU-TEP และ TU-GET จะเป็นข้อสอบที่ออกโดยมหาวิทยาลัยนั้น ๆ เช่นจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ ฯลฯ ดังนั้นน้อง ๆ จึงควรเช็คข้อมูลดูก่อนว่าคณะและมหาวิทยาลัยที่เราต้องการเข้าเรียนนั้นต้องการคะแนนของผลสอบวัดระดับตัวไหนบ้างและใช้คะแนนเท่าไหร่

วันนี้พี่กริฟฟินจะข้อยกตัวอย่างหนึ่งในเกณฑ์ที่นิยมนำมาใช้ ซึ่งก็คือคะแนนสอบ SAT สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่า SAT คือ อะไร สามารถอ่านข้อมูลอย่างละเอียดได้ที่ SAT คืออะไร

หากจะให้สรุปสั้น ๆ SAT คือ “ข้อสอบมาตรฐานที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริการวมถึงคณะอินเตอร์ในประเทศไทยใช้เพื่อวัดระดับผู้สอบสำหรับการเรียนต่อระดับปริญญาตรี” มีเวลาให้ทำข้อสอบทั้งสิ้น 3 ชั่วโมง

ข้อสอบ SAT จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คะแนนเต็มส่วนละ 800 รวมเป็นทั้งหมด 1,600 คะแนน น้อง ๆ หลายคนที่กำลังค้นหาว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี ควรพิจารณาถึงจุดเด่นในการสอนของแต่ละสถาบันที่เหมาะกับตัวเอง รวมถึงความละเอียดในการใส่ใจต่อผู้เรียนที่อาจแตกต่างกันไปอีกด้วย

ข้อสอบ SAT 2 ส่วน:

SAT Math (800 คะแนน)

มีทั้งแบบตัวเลือก (choice) และให้เติมคำตอบในช่องว่าง โดยข้อสอบ SAT Math คือส่วนที่นักเรียนควรทำคะแนนได้สูงตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปสำหรับคณะที่แข่งขันกันสูง น้อง ๆ ที่เรียนภาคปกติมาอาจจะต้องฝึกความแม่นด้านภาษาพอสมควรควบคู่กันไปเพื่อจะตีโจทย์ได้ตรง

  • Math Test – Calculator มี 38 ข้อ ตอบผิดได้ไม่ติดลบ
  • Math Test – No Calculator อีก 20 ข้อ

Evidence-Based Reading & Writing (800 คะแนน)

  • Reading 52 ข้อ
  • Writing and Language 44 ข้อ จาก 4 บทความ

เมื่อนำคะแนนของทั้งสองส่วนประกอบกันแล้ว ผู้สอบควรมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,380 เต็ม 1,600 คะแนนจึงจะมีโอกาสสอบเข้าได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้แต่ละคณะจะมีการระบุว่าต้องได้คะแนน SAT อย่างน้อยเท่าไรจึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร และคนที่จะได้รับเลือกให้เข้าเรียนมักจะได้คะแนนสอบที่สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำเสมอ นักเรียนจึงควรฝึกฝนการทำข้อสอบ mock test ให้ชำนาญอย่างยิ่งก่อนจะลงสนามจริง

เรียน-SAT-ที่ไหนดี

เรียน SAT ที่ไหนดี แล้วควรเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่?

น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวสอบ SAT ได้ตั้งแต่ ม.5 เพราะคะแนนสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี บางคนถนัดเตรียมตัวหาข้อมูลและศึกษาด้วยตัวเอง แต่สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด มีคณาจารย์คอยสอนเทคนิคและดูแลใกล้ชิดให้มั่นใจเต็มร้อย House of Griffin ก็เป็นอีกสถาบันที่มีทั้งคอร์สระยะยาว สั้น ออนไลน์ ออฟไลน์ จนตอบคำถามว่าเรียน SAT ที่ไหนดีของผู้เตรียมสอบได้อย่างครบถ้วน การันตีด้วยนักเรียนที่สอบผ่านได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อหลายพันคนและอาจารย์ทรงคุณวุฒิที่ได้ SAT คะแนนเต็มมาสอนให้นักเรียนเก่งขึ้นได้อย่างชัดเจน

ดูคอร์สของเราที่นี่: คอร์สเรียน SAT

เรียน SAT ที่ไหนดี มาที่ House of Griffin การันตีผล

  1. ประหยัดเวลาในการสมัครและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ นักเรียนแค่ไปสอบ และถึงจะสอบไม่ผ่านเราก็ยังให้เรียนฟรี มีคอร์สเข้มข้นเตรียมตัวน้อง ๆ ไปสอบใหม่แบบฟรี ๆ โรงเรียนออกค่าสอบให้
  2. เรียนเน้นเดี่ยวและกลุ่มเล็ก อาจารย์ดูแลได้อย่างทั่วถึง มีทีมวิชาการคอยติดตามการเรียนของน้อง ๆ ตลอดหลักสูตร รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายบุคคล
  3. น้อง ๆ จะได้ความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะที่นี่มีการจัดทำ Mockup Test ถึง 4 ครั้งตลอดหลักสูตร ฝึกให้ชินมือก่อนลงสนามจริง
  4. หลังจาก Mockup Test แล้ว น้อง ๆ ยังจะได้รับรีวิวข้อสอบที่ทำและคอมเมนต์จากอาจารย์ผู้สอนเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้เก็บไปวิเคราะห์หาจุดที่ควรเน้นย้ำและพัฒนาต่อไป
  5. นอกจากพื้นฐานจะแน่นแล้ว ยังสอดแทรกเทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบจากอาจารย์ผู้พิชิตคะแนนเต็มมาแล้วทุกปี เอาไปใช้กันต่อได้ไม่มีกั๊ก

หากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการความมั่นใจ สอบครั้งนี้ไม่มีพลาด ไม่ต้องหาอีกต่อไปว่าจะเรียน SAT ที่ไหนดี มาลองปรึกษาอาจารย์ที่ House of Griffin กันก่อนตัดสินใจที่ LINE ID: @houseofgriffin

ดูรายละเอียดคอร์ส SAT

Share this article