Skip to content

SAT Math คืออะไร รวมเทคนิคพิชิตข้อสอบ SAT Math

ข้อสอบ SAT หรือ Scholastic Assessment Test เป็นข้อสอบมาตรฐานที่ใช้ในการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในประเทศไทยเองก็เปิดรับคะแนน SAT สำหรับการยื่นเรียนต่อด้วยเช่นกัน โดยข้อสอบ SAT มีทั้งหมด 2 รายวิชา ได้แก่ ข้อสอบ SAT Verbal และ SAT Math โดยในบทความนี้พี่กริฟฟินจะพาน้อง ๆ ทุกคนไปรู้จักกับข้อสอบ SAT Math ให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น SAT Math คืออะไร สอบอะไรบ้าง พร้อมเทคนิคพิชิตข้อสอบ SAT Math

ข้อสอบ SAT Math คืออะไร

SAT Math คือ ข้อสอบ SAT (หรือที่ในปัจจุบันเรียกว่าข้อสอบ Digital SAT) ในรายวิชาคณิตศาสตร์ที่เนื้อหาการสอบจะมีความยากในระดับเดียวกับคณิตศาสตร์มัธยมปลาย วัดความรู้ด้านคณิตศาสตร์ ความสามารถคำนวณและการใช้งานตรรกะของผู้สอบ โดยตัวข้อสอบจะเป็นข้อสอบแบบ Adaptive Test ที่มีคะแนนเต็มอยู่ที่ 800 คะแนน มีจำนวนทั้งหมด 44 ข้อ กำหนดระยะเวลาทำสอบอยู่ที่ 70 นาที ซึ่งจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 Module ดังนี้

SAT Math คือ ข้อสอบ SAT สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 Module

ข้อสอบ SAT Math Module 1

ข้อสอบ SAT Math ในชุดแรก หรือ Module 1 จะมีจำนวนข้อสอบทั้งหมด 22 ข้อ กำหนดเวลาการทำทั้งหมด 35 นาที (เฉลี่ยข้อละเกือบ 2 นาที) โดยข้อสอบในชุดนี้จะมีระดับความยากคละกันไป และผู้สอบจะได้รับข้อคำถามที่เหมือนกันทุกคน และมีคะแนนเต็มอยู่ที่ 400 คะแนน

ข้อสอบ SAT Math Module 2

ถัดมาข้อสอบ SAT Math ในชุดที่ 2 หรือ Module 2 ก็มีจำนวนข้อสอบ 22 ข้อ และกำหนดเวลาการทำสอบที่ 35 เช่นกัน แต่ความยากของข้อสอบในชุดนี้จะ “ขึ้นอยู่กับคะแนนของข้อสอบใน Module 1” ที่ผู้สอบทำได้ จากนั้นระบบก็จะทำการคำนวณและจัดชุดข้อคำถามใน Module 2 ออกมาให้เหมาะสมกับความสามารถของผู้สอบแต่ละคน โดยหากผู้สอบทำคะแนนในข้อสอบ Module 1 ออกมาได้คะแนนสูง ระบบก็จะจัดข้อสอบใน Module 2 ที่มีระดับความยากสูง และมีโอกาสที่ผู้สอบจะสามารถคว้าคะแนนเต็ม 400 คะแนนได้ แต่หากทำข้อสอบในชุดแรกได้คะแนนน้อย ระบบก็จะจัดชุดข้อสอบใน Module 2 ให้ง่ายยิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้สอบสามารถทำข้อสอบได้มากขึ้น

SAT Math สอบอะไรบ้าง มีกี่ข้อ พร้อมตัวอย่างข้อสอบ

ในส่วนของเนื้อหาการสอบของข้อสอบ SAT Math ของทั้ง 2 Modules จะประกอบไปด้วย 4 หัวข้อ ได้แก่

ข้อสอบ SAT Math ในหัวข้อ Algebra (พีชคณิต)

Algebra หรือข้อสอบพีชคณิต จะมีข้อสอบทั้งหมด 13 – 15 ข้อ คิดเป็น 35% ของข้อสอบ SAT Math ทั้งหมด โดยเป็นโจทย์ปัญหาพีชคณิตที่เน้นวัดความสามารถในการวิเคราะห์ แก้สมการเชิงเส้น ระบบสมการ อสมการ และฟังก์ชันต่าง ๆ ประกอบไปด้วยข้อสอบอีก 5 เรื่องย่อย ได้แก่

  • สมการเชิงเส้น 1 ตัวแปร (Linear Equations in 1 Variable)
  • สมการเชิงเส้น 2 ตัวแปร (Linear Equations in 2 Variables)
  • ฟังก์ชัน (Linear Functions)
  • ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร (Systems of 2 Linear Equations in 2 Variables)
  • อสมการเชิงเส้น 1-2 ตัวแปร (Linear Inequalities in 1 or 2 Variables)

ข้อสอบ SAT Math ในหัวข้อ Advanced Math (คณิตศาสตร์ขั้นสูง)

Advanced Math หรือข้อสอบคณิตศาสตร์ขั้นสูง จะมีจำนวนทั้งหมด 13 – 15 ข้อ คิดเป็น 35% ของข้อสอบ SAT Math ทั้งหมด โดยโจทย์จะเน้นไปที่การวัดทักษะด้านการแก้สมการคณิตศาสตร์เชิงลึกที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเรียนสาย STEM (Science, Technology, Engineer, Math) ในอนาคตได้ แบ่งหัวข้อการสอบย่อยได้ 4 เรื่อง ดังนี้

  • นิพจน์เทียบเท่า (Equivalent Expressions)
  • อสมการไม่เชิงเส้น 1 ตัวแปร (Nonlinear Equations in 1 variable)
  • ระบบสมการสองตัวแปร (Systems of Equations in 2 Variables)
  • ฟังก์ชันไม่เชิงเส้น (Nonlinear Functions)

ข้อสอบ SAT Math ในหัวข้อ Problem Solving and Data Analysis (การแก้ไขโจทย์ปัญหาและวิเคราะห์ข้อมูล)

ข้อสอบ SAT Math แบบ Problem Solving and Data Analysis เป็นปัญหาคณิตศาสตร์ด้านการใช้เหตุผลในการแก้ไขปัญหาและวิเคราะห์ข้อมูล มีจำนวนทั้งหมด 5 – 7 ข้อ คิดเป็น 15% ของข้อสอบทั้งหมด คำถามจะเน้นวัดความสามารถในการใช้เหตุผลเชิงปริมาณและการคำนวณอัตราส่วน, ร้อยละ, ความน่าจะเป็น และความสัมพันธ์ตลอดจนการวิเคราะห์และตีความข้อมูลแบบตัวแปรเดียวและสองตัวแปรที่มักพบได้ในชีวิตประจำวันและการเรียน ประกอบไปด้วย 7 เรื่องย่อย ได้แก่

  • อัตราส่วน, ความสัมพันธ์ตามสัดส่วนและหน่วย (Ratios, rates, proportional relationships, and units)
  • ร้อยละ (Percentages)
  • ข้อมูลตัวแปรเดียว : การกระจายและการวัดจุดศูนย์กลาง (One-variable data: distributions and measures of center and spread)
  • ข้อมูลสองตัวแปร : โมเดลและกราฟแบบกระจาย (Two-variable data: models and scatter plots)
  • ความน่าจะเป็นและหลักความน่าจะเป็นแบบมีเงื่อนไข (Probability and conditional probability)
  • การอนุมานจากสถิติตัวอย่างและขอบเขตของข้อผิดพลาด (Inference from sample statistics and margin of error)
  • การประเมินสถิติผ่านการสังเกตและทดลอง (Evaluating statistical claims: observational studies and experiments)

ข้อสอบ SAT Math ในหัวข้อ Geometry and Trigonometry (เรขาคณิตและตรีโกณมิติ)

โจทย์ปัญหา Geometry and Trigonometry หรือโจทย์เลขาคณิตและตรีโกณมิติ จะมีทั้งหมด 5 – 7 ข้อ คิดเป็น 15% ของข้อสอบ SAT Math ทั้งหมด วัดความสามารถในการแก้โจทย์เลขาคณิตทั้งสองมิติและสามมิติ รวมถึงการแก้โจทย์ด้านตรีโกณมิติ แบ่งหัวข้อการสอบย่อยได้ 4 เรื่อง ดังนี้

  • การหาพื้นที่และปริมาตร (Area and volume formulas)
  • เส้นตรง, มุม และสามเหลี่ยม (Lines, angles, and triangles)
  • สามเหลี่ยมมุมฉากและตรีโกณมิติ Right triangles and trigonometry
  • วงกลม (Circles) จุดศูนย์กลาง, รัศมี

โดยน้อง ๆ สามารถลองดูตัวอย่างข้อสอบ SAT Math เพิ่มเติม พร้อมคำอธิบายได้ ที่นี่

3 เทคนิคพิชิตข้อสอบ SAT Math

3 เทคนิคพิชิตข้อสอบ SAT Math

เทคนิค 1 ทำความเข้าใจเนื้อหาที่ออกสอบ SAT Math ให้แม่นยำ

สิ่งสำคัญของการทำข้อสอบ SAT Math คือ น้องแต่ละคนจะต้องมีความรู้ในเนื้อหาที่ออกสอบทุกเรื่องให้ครบถ้วน และทดลองทำฝึกโจทย์ในแต่ละหัวข้อ โดยอาจตั้งเป้าหมายการฝึกทำโจทย์วันละ 1 เรื่อง เพื่อที่จะได้โฟกัสกับการทำความเข้าใจในหัวข้อนั้น ๆ อย่างเต็มที่

เทคนิค 2 ฝึกใช้งานแอปพลิเคชัน Bluebook ให้คล่อง

การสอบ SAT Math จะต้องทำการสอบผ่านแอปพลิเคชัน Bluebook ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้น้อง ๆ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้มาติดเครื่องเอาไว้เพื่อฝึกใช้งาน เวลาสอบจริงจะได้สามารถใช้งานได้อย่างคล่องมือ เพราะในการสอบ SAT Math จะอนุญาตให้ใช้งานเครื่องคิดเลขได้เฉพาะในแอปพลิเคชันเท่านั้น หากไม่เคยใช้งานแอปพลิเคชันนี้มาก่อนอาจต้องใช้เวลาเรียนรู้หน้างานและทำให้เสียเวลาการทำสอบได้

เทคนิค 3 ฝึกการบริหารเวลาระหว่างทำโจทย์ SAT Math

นอกจากจะฝึกทำโจทย์ SAT Math ในแต่ละหัวข้อให้แม่นแล้ว การบริหารเวลาขณะทำโจทย์แต่ละข้อเองก็สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากการสอบมีระยะเวลาจำกัด เฉลี่ยแล้วข้อละไม่ถึง 2 นาที จึงไม่ควรใช้เวลาในแต่ละข้อมากจนเกินไป และเผื่อเวลาในการทบทวนก่อนส่งข้อสอบอีกครั้งหนึ่งด้วย เพราะการทำสอบไม่ทันนั้นเป็นหนึ่งใน จุดเด็กไทยมักทำพลาดบ่อย ๆ ในข้อสอบ SAT Math เลย

ลงติว SAT Math กับ House of Griffin เสริมความมั่นใจก่อนสอบจริง

น้องคนไหนอยากสอบ SAT Math ได้คะแนนสูง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงสอบและสามารถเอาคะแนนไปยื่นเรียนต่อได้เลย ขอแนะนำให้ลงติวสอบ SAT กับ House of Griffin สถาบันติว SAT ที่มีทีมครูผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ช่วยเสริมเทคนิคการทำสอบ SAT Math และ SAT Verbal เน้น ๆ พร้อมพาตะลุยคลังข้อสอบเก่าแบบครบถ้วน โดยสามารถเลือกคอร์สติวได้ตามความสะดวกทั้งรูปแบบ On-site และ Online

Share this article