หนึ่งในพาร์ทของข้อสอบ IELTS ที่เรียกได้ว่าเป็นพาร์ทปราบเซียนสำหรับเด็กไทย นอกจาก IELTS Speaking แล้วก็คงหนีไม่พ้นข้อสอบ IELTS Writing อย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะต้องทำข้อสอบในระยะเวลาจำกัดเพียง 60 นาทีแล้ว ยังมีจำนวนคำขั้นต่ำที่จะต้องเขียนในแต่ละส่วนอีกด้วย จึงเป็นความท้าทายสำหรับหลายคนที่ไม่ได้ใช้งานภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะในส่วนของ IELTS Writing Task 2 ที่เป็นการเขียนวิเคราะห์และแสดงความเห็นตามหัวข้อที่โจทย์กำหนดให้ วันนี้พี่กริฟฟินเลยจะพามาเจาะลึกเทคนิคการพิชิตข้อสอบนี้กัน
IELTS Writing Task 2 สอบอะไร ?
สำหรับข้อสอบ IELTS Writing Task 2 จะมีหัวข้อระบุไว้ในโจทย์ให้ผู้สอบเขียนวิพากย์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็น หรือเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาตามที่โจทย์กำหนดผ่านการเขียน Essay เป็นจำนวนขั้นต่ำ 250 คำ โดยแนะนำให้อ่านและทำความเข้าใจคำถามอย่างละเอียด เพื่อที่น้อง ๆ จะได้เขียนตอบแบบชัดเจนและตรงประเด็นกับที่โจทย์ถาม โดยส่วนใหญ่แล้วข้อคำถามจะมีอยู่ 5 รูปแบบหลัก ดังนี้
คำถามในแบบ Agree or Disagree
คำถามรูปแบบนี้ โจทย์จะให้ผู้สอบตอบเขียนอธิบายว่า เห็นด้วย (Agree) หรือ ไม่เห็นด้วย (Disagree) กับประโยคหรือข้อความที่โจทย์กำหนด โดยจะต้องระบุถึงเหตุผลที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับข้อความดังกล่าวลงไปในการตอบอย่างชัดเจนด้วย
ตัวอย่างข้อคำถาม
Some think dangerous extreme sports such as skydiving and rock climbing should be banned. To what extent do you agree or disagree? (บางคนคิดว่ากีฬาผาดโผนอย่าง Skydriving และการปีนผาควรถูกแบน คุณเห็นด้วยหรือไม่กับข้อความดังกล่าว)
คำถามแบบ Advantages out weight Disadvantages
เป็นคำถามที่ให้ผู้ตอบแสดงความคิดเห็นเชิงเปรียบเทียบว่าสิ่งที่โจทย์กำหนดมานั้นมีข้อดี (Advantages/ Benefits) และข้อเสีย (Disadvantages) อย่างไรบ้าง โดยจะต้องเขียนอธิบายทั้งส่วนของข้อดีและข้อเสียออกมาและเปรียบเทียบกันโดยแทรกความคิดเห็นของตนเองลงไปเพื่อทำให้คำตอบมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างข้อคำถาม
New technologies have changed the way children spend their free time. Do you think the advantages of this trend outweigh the disadvantages? (เทคโนโลยีใหม่เข้ามาเปลี่ยนแปลงกิจกรรมในยามว่างของเด็ก ๆ คุณคิดว่ามันมีข้อดีหรือข้อเสียมากกว่ากันอย่างไรบ้าง)
คำถามแบบ Discuss two viewpoints
โจทย์จะมีข้อความระบุเอาไว้ที่แสดงถึง 2 แนวความคิดที่มีรูปแบบตรงข้ามกัน ให้ผู้สอบเขียนอภิปรายว่าสิ่งที่โจทย์กำหนดมาทั้ง 2 อย่างนั้นเป็นอย่างไรบ้างในมุมมองของผู้สอบโดยเสริมความคิดเห็นเข้าไปในการตอบคำถามด้วย
ตัวอย่างข้อคำถาม
Some people prefer to spend their lives doing the same things and avoiding change. Others, however, think that change is always a good thing. Discuss both these views and give your own opinion. (บางคนชอบที่จะทำสิ่งเดิมโดยหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลง, แต่อีกหลายคนก็คิดว่าการเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเสมอ จงอภิปรายมุมมองทั้ง 2 ด้านนี้พร้อมแสดงความคิดเห็นของคุณ)
คำถามแบบ Causes/ Problems and Effects and Solutions
คำถามในรูปแบบนี้จะยกตัวอย่างสถานการณ์ขึ้นมาเพื่อถามเกี่ยวกับความเป็นเหตุเป็นผล สาเหตุ ปัญหา และผลกระทบของหัวข้อที่โจทย์ระบุไว้ โดยให้ผู้สอบเขียนอธิบายถึงแนวทางการแก้ปัญหานั้น ควบคู่กันไปด้วย
ตัวอย่างข้อคำถาม
In many countries, the number of animals and plants is declining. Why do you think this is happening? How can this issue be solved? Give reasons for your answer and include any relevant examples from your knowledge or experience. (ในหลาย ๆ ประเทศ พืชและสัตว์ในพื้นที่มีจำนวนที่ลดน้อยลง คุณคิดว่าปัญหานี้เกิดขึ้นจากสาเหตุใด? และสามารถแก้ไขได้อย่างไรบ้าง? เขียนอธิบายเหตุผลและยกตัวอย่างจากความรู้และประสบการณ์ของคุณ)
คำถามแบบ Direct Question
คำถามในรูปแบบนี้จะเป็นการถามตรง ๆ ให้ผู้สอบเขียนตอบคำถามโดยแสดงความคิดเห็นของตนเองที่มีต่อโจทย์ที่กำหนดเอาไว้
ตัวอย่างข้อคำถาม
Some people think that money is one of the most essential factors in promoting happiness. Do you think people can be happy without much money? What other factors contribute towards happiness? (บางคนคิดว่าเงินเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการส่งเสริมให้เกิดความสุขในชีวิต คุณคิดว่าคนเราจะมีความสุขโดยไม่ต้องมีเงินทองมากมายได้ไหม? มีปัจจัยใดบ้างที่ทำให้เกิดความสุข?)
นอกจากนี้ ยังสามารถดูตัวอย่างข้อคำถามของข้อสอบ IELTS Writing พาร์ทนี้เพิ่มเติมได้ ที่นี่
ข้อสอบ IELTS Writing Task 2 เขียนตอบยังไงถึงได้คะแนนสูง
การตอบข้อสอบ IELTS Writing Task 2 จะเป็นรูปแบบการเขียน Essay หรือเรียงความ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือจะต้องเขียนตอบให้ครบถ้วนตามโครงสร้างของ Essay ดังนี้
ส่วนที่ 1 Introduction หรือบทนำ
ส่วนที่ 2 Body Paragraph หรือเนื้อหา โดยแนะนำให้เขียนประมาณ 2-3 ย่อหน้า
ส่วนที่ 3 Conclusion หรือบทสรุป
แต่ก่อนที่จะลงมือเขียน Essay ออกมา พี่กริฟฟินแนะนำให้ลองลิสต์ Outline หรือโครงร่างคร่าว ๆ ของสิ่งที่ต้องการเขียนลงไปในเรียงความออกมาให้ชัดเจนก่อนลงรายละเอียดให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้เขียนตอบข้อสอบออกมาได้แบบไม่หลงประเด็นนั่นเอง
เริ่มต้นเขียนตอบในส่วนแรก (Introduction)
การเขียน Essay จะเริ่มต้นจากส่วน Introduction หรือบทนำ ในส่วนนี้แนะนำให้น้องแต่ละคนเกริ่นนำถึงเรื่องที่จะเขียนต่อไปในส่วนของเนื้อหาแบบคร่าว ๆ โดยอาจย้อนทวนคำถามที่ได้รับมาเล็กน้อยแต่ปรับเปลี่ยนการใช้คำไม่ให้เป็นการลอกคำถามมาใส่ในคำตอบ และลองดูลักษณะคำถามที่โจทย์ระบุเอาไว้เพื่อเลือกใช้ประโยคขึ้นต้นที่เหมาะสมกับคำถามนั้น เช่น
ตัวอย่างประโยคสำหรับตอบคำถามแบบ Agree or Disagree
“The statement that… is a subject of considerable debate. Personally, I strongly agree/disagree with this assertion.”
“It is argued that… While there are some merits to this view, I largely disagree/agree.”
“The notion that… is one that many people hold. While there are some arguments in favor, my opinion is that…”
ตัวอย่างประโยคสำหรับตอบคำถามแบบ Advantages out weight Disadvantages
“There are several advantages and disadvantages associated with… This essay will explore these in detail.”
“The implementation of… has both positive and negative consequences, which will be discussed in this essay.”
“While there are clear benefits to…, there are also some drawbacks that need to be considered.”
ตัวอย่างประโยคสำหรับตอบคำถามแบบ Discuss two viewpoints
“There are differing perspectives on whether… This essay will examine both sides of the argument.”
“The issue of… provokes contrasting opinions. This essay intends to analyze both perspectives.”
“It is often argued that… Conversely, others maintain that… This essay will explore these two differing viewpoints.”
ตัวอย่างประโยคสำหรับตอบคำถามแบบ Causes/ Problems and Effects and Solutions
“The problem of… is becoming increasingly prevalent. This essay will examine the causes of this issue and suggest possible solutions.”
“There are several factors contributing to… This essay will identify these causes and propose some potential remedies.”
ตัวอย่างประโยคสำหรับตอบคำถามแบบ Direct Question
“This essay aims to provide a comprehensive analysis of…, focusing on both [question 1] and [question 2].”
“In response to the questions of [question 1] and [question 2], this essay will argue that…”
“This essay will consider the reasons for [question 1] and then suggest solutions to [question 2].”
เขียนตอบข้อสอบในส่วนของเนื้อหา (Body)
เมื่อเกริ่นนำในส่วนของบทนำจบเป็นที่เรียบร้อย ส่วนถัดไปที่เป็นเนื้อหาสำคัญที่จะตอบคำถามที่โจทย์ IELTS Writing Task 2 ระบุไว้ ในส่วนนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2-3 Paragraphs ได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับเนื้อหาที่น้องแต่ละคนตั้งใจจะเขียนตอบลงไปว่ามีกี่ประเด็นที่ต้องการพูดถึง เพราะการเขียนเนื้อหา 1 ย่อหน้า ควรมีหัวข้อหลัก (Main idea) เพียงแค่ 1 หัวข้อเท่านั้น ดังนั้นหากต้องการพูดถึงหลายประเด็นก็สามารถแบ่งย่อหน้าตามหัวข้อหลักได้เลย
นอกจากนี้อาจดูประเภทของคำถามที่ได้รับเพื่อเป็นตัวช่วยในการแบ่งย่อหน้าได้ เช่น หากได้รับคำถามที่ให้อธิบายหัวข้อแบบ 2 มุมมอง อาจแบ่งย่อหน้าแรกสำหรับการพูดถึงมุมมองที่ 1 และย่อหน้าที่ 2 สำหรับมุมมองที่ 2 หรือหากได้รับคำถามให้อธิบายสาเหตุ ผลกระทบ และวิธีการแก้ปัญหาที่โจทย์ระบุ ก็สามารถแบ่งเป็น 3 ย่อหน้าตามหัวข้อที่ต้องการพูดถึงในแต่ละส่วน เป็นต้น
ปิดท้ายการตอบด้วยการเขียนบทสรุป (Conclusion)
อย่างที่ระบุไปข้างต้นว่าการเขียน Essay นั้นมีอยู่ 3 ส่วน ซึ่งส่วนสุดท้ายของการปิดท้าย Essay หรือการเขียนสรุป (Conclusion) ก็เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เพื่อทำให้คำตอบใน IELTS Writing Task 2 ของน้องแต่ละคนมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยในส่วนนี้ควรจะเขียนสรุปหัวข้อหรือประเด็นที่ต้องการตอบในภาพรวม โดยอาจเปิดด้วยประโยค/วลี ดังต่อไปนี้
“In conclusion…”
“To conclude…”
“In summary…”
“To sum up…”
“Overall…”
“Taking everything into account…”
“Based on the arguments presented…”
เทคนิคอื่น ๆ ในการทำข้อสอบ
1. บริหารเวลา
เนื่องจากข้อสอบ IELTS Writing มีการกำหนดเวลาทำสอบเอาไว้ทั้งหมด 60 นาที แต่มีข้อสอบให้ทำถึง 2 ส่วน จึงแนะนำให้แบ่งเวลาการทำข้อสอบเอาไว้ราว 40 นาทีของการสอบ เพราะคะแนนการสอบ IELTS Writing จะมีการแบ่งสัดส่วนการสอบเอาไว้เป็น IELTS Writing Task 1 ที่ 30% ส่วน IELTS Writing Task 2 จะอยู่ที่ 70% ดังนั้นหากใช้เวลากับข้อสอบในส่วนแรกมากเกินไปอาจทำให้เสียคะแนนของ Task 2 ที่เป็นคะแนนส่วนใหญ่ได้นั่นเอง
2. ใช้คำศัพท์ที่มีความหลากหลายและไม่ซ้ำซ้อนกัน
อีกจุดหนึ่งที่ต้องระวังคือการใช้คำซ้ำใน Paragraph เดียวกันบ่อย เพราะจะทำให้ Essay ของเราดูน่าเบื่อและอาจถูกหักคะแนนได้ จึงควรเลือกใช้คำ Synonym ที่มีความหมายคล้ายคลึงกันในการเขียนตอบข้อสอบ IELTS Writing Task 2 เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและแสดงให้เห็นว่าเรามีคลังคำศัพท์ IELTS ที่หลากหลายแต่ต้องเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับบริบทและรูปประโยคด้วยเช่นกัน
3. เช็ก Tense ให้เป๊ะ
นอกจากการใช้คำศัพท์ให้หลากหลายแล้ว สิ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือเรื่องของไวยากรณ์ (Grammar) และการเลือกใช้ Tense ในการเขียนตอบ โดยส่วนใหญ่แล้วข้อสอบจะเป็นการถามเกี่ยวกับความคิดเห็นต่อหัวข้อต่าง ๆ ที่โจทย์ระบุเอาไว้ ดังนั้นน้องแต่ละคนก็สามารถเลือกตอบเป็น Present Simple Tense ได้เลย หรือหากต้องการใช้ Tense อื่น เพื่อเพิ่มความน่าสนใจในการตอบคำถามก็อย่าลืมตรวจสอบความถูกต้องของการผัน Verb และโครงสร้างประโยคให้ถูกต้องด้วย
4. ตรวจทานความถูกต้องก่อนส่งข้อสอบ
หากมีเวลาเหลือ แนะนำให้ทำการตรวจสอบความถูกต้องของ Essay อีกครั้งก่อนส่งข้อสอบ IELTS Writing Task 2 ทั้งการเรียงลำดับคำตอบในส่วนต่าง ๆ อย่างถูกต้องและชัดเจนตรงประเด็น หรือบางทีอาจพบเจอจุดที่สะกดผิด, จุดที่ใช้ Grammar ผิด, จุดที่ต้องการปรับเปลี่ยนคำศัพท์เพื่อให้รูปประโยคสวยงามมากขึ้นก็สามารถปรับแก้ได้ทัน
ติวเข้มให้พร้อมก่อนสอบ IELTS ให้ได้คะแนนตามเป้า
น้องคนไหนกำลังเตรียมตัวสอบ IELTS แต่ยังไม่มั่นใจในสกิลของตัวเอง ขอแนะนำคอร์สติว IELTS ของ House of Griffin ที่มีคอร์สติวเข้มทุกพาร์ทการสอบ IELTS อย่างครบถ้วนทั้ง 4 ทักษะ ตั้งแต่ Reading, Listening, Speaking ไปจนถึง Writing ที่จะพาเจาะลึกการสอบทุกจุด รวมถึงเทคนิคการเขียนตอบ IELTS Writing Task 2 ที่หลายคนกังวลด้วย โดยคอร์สติว IELTS ที่ House of Griffin นอกจากจะทำการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยังมีทีมวิชาการคอยประเมินทักษะของน้อง ๆ เพื่อวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนแบบรายบุคคลเพื่อปรับแผนการติวให้เหมาะสมกับน้องแต่ละคน เสริมความมั่นใจก่อนลงสนามจริงเพื่อคว้าคะแนน IELTS 7.0 ตามที่ต้องการได้อย่างแน่นอน