
ในยุคนี้ที่คนหันมาสนใจในเรื่องของ “สุขภาพจิต” กันมากขึ้น ทำให้ความนิยมของ “คณะจิตวิทยา” อินเตอร์ของจุฬาฯ พุ่งสูงขึ้นแบบสุด ๆ เพราะที่จุฬาลงกรณ์เป็น “มหาวิทยาลัยแรกและมหาวิทยาลัยเดียวในประเทศไทย” ที่เปิดสอนคณะจิตวิทยาในหลักสูตรอินเตอร์ ถ้าใครสนใจอยากเรียนสาย “จิตวิทยา” แล้วละก็ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดหลักสูตรนี้แบบสุด ๆ เพราะนอกจากจะได้เรียนจิตวิทยาแบบเน้น ๆ แล้ว ยังมีโอกาสได้ไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ออสเตรเลียและได้วุฒิปริญญาตรีถึง 2 ใบในระยะเวลาเรียนเพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น! ในบทความนี้พี่กริฟฟินเลยจะพาน้อง ๆ ทุกคนมาทำความรู้จักกับคณะจิตวิทยา อินเตอร์ จุฬาฯ กันแบบลึกซึ้ง ตั้งแต่การแนะนำคณะ JIPP CU รายวิชาการเรียน ไปจนถึงเกณฑ์การรับสมัครนิสิต ค่าเทอม และเส้นทางอาชีพหลังเรียนจบกันแบบหมดเปลือก
คณะ JIPP CU คืออะไร
คณะ JIPP CU คือ คณะจิตวิทยา หลักสูตรอินเตอร์ของมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ โดยคำว่า JIPP ก็ย่อมาจาก Joint International Psychology Program เป็นโครงการจิตวิทยาร่วมระหว่างประเทศของทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัย UQ (University of Queensland) ประเทศออสเตรเลีย โดยทั้งสองมหาวิทยาลัยนี้ได้พัฒนาหลักสูตรขึ้นมาร่วมกันเพื่อให้ผู้เรียนได้สัมผัสกับประสบการณ์การเรียนการสอนในระดับนานาชาติอย่างแท้จริง เพราะหลักสูตรนี้จะมีการเรียนการสอนทั้งในประเทศไทยและออสเตรเลีย นิสิตจึงได้รับทั้งความรู้ทางด้านวิชาการ ควบคู่ไปกับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับเพื่อน ๆ ชาวต่างชาติ อีกทั้งเมื่อเรียนจบหลักสูตรนี้แล้วก็ได้จะใบปริญญาถึง 2 ใบ ทั้งจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจาก UQ เลยทีเดียว
โดยมหาวิทยาลัย UQ (University of Queensland) เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังหนึ่งในกลุ่มมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศออสเตรเลีย (Group of Eight) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบริสเบนที่เป็นหนึ่งในเมืองแห่งการศึกษาอันดับต้น ๆ อีกทั้งสาขาจิตวิทยาของที่ UQ ยังได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหลักสูตรจิตวิทยาที่ดีที่สุดเป็นอันดับที่ 9 ของโลกโดย QS World Ranking ในปี 2013 อีกด้วย
หลักสูตร JIPP CU เรียนอะไร
สำหรับรายวิชาการเรียนการสอนของหลักสูตรนี้ก็จะมุ่งเน้นให้นิสิตได้มีความรู้ความเข้าใจทางด้านจิตวิทยา การทำความเข้าใจและสังเกตพฤติกรรมมนุษย์เพื่อวิเคราะห์ แก้ไขปัญหา และค้นหาคำตอบที่เป็นต้นเหตุของการกระทำต่าง ๆ โดยยึดหลักจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์ รวมถึงยังมีการศึกษาเกี่ยวกับระเบียบวิธีการทำวิจัยในเชิงจิตวิทยาและการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติเพื่อการวิจัยอย่างมีประสิทธิภาพและมีการฝึกปฏิบัติงานจริงเพื่อให้นิสิตสามารถประยุกต์ใช้งานความรู้ทางจิตวิทยาเข้ากับความรู้ในศาสตร์อื่น ๆ ในชีวิตประจำวันและการทำงานในอนาคตได้อย่างชาญฉลาด
ซึ่งโครงการ Joint International Psychology Program (JIPP) จะมีการแบ่งการเรียนการสอนออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
การเรียนที่ประเทศไทยที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 1-2 และปี 4 เทอม 2
นิสิตจะได้เรียนรู้แนวทางพื้นฐานทั่วไปของรายวิชาจิตวิทยาทั่วไปควบคู่ไปกับรายวิชาศึกษาทั่วไปที่เป็นวิชาบังคับที่นิสิตจุฬาทุกคนจำเป็นจะต้องเรียน แต่สามารถเลือกลงรายวิชาการเรียนเองได้อย่างอิสระตามหัวข้อของรายวิชาประเภทต่าง ๆ ซึ่งการเรียนในช่วงปี 1-2 นี้ นิสิตจะได้รับความรู้ทั้งทางจิตวิทยา สถิติ การวิจัย และวิชาอื่น ๆ ตามความสนใจได้อย่างหลากหลายรวมถึงสามารถสนุกไปกับกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มที่ จากนั้นเมื่อเรียนครบทั้ง 3 ภาคการศึกษาที่ออสเตรเลีย ก็จะกลับมาเรียนเทอมสุดท้ายที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกครั้งหนึ่งโดยจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการสัมมนาและการทำโครงการศึกษาค้นคว้าข้อมูลด้วยตนเองก่อนจบการศึกษา
การเรียนการสอนที่ประเทศออสเตรเลีย ใน UQ (University of Queensland)
ในปีที่ 3 และปี 4 เทอมแรก นิสิตจะได้พัฒนาทักษะความรู้ทางจิตวิทยาอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นที่ School of Psychology ของทางมหาวิทยาลัย UQ ในประเทศออสเตรเลีย โดยมีรายวิชาเกี่ยวกับจิตวิทยาให้เลือกลงเรียนอย่างหลากหลาย ซึ่งบางวิชาก็ไม่มีการเปิดสอนที่ประเทศไทย ดังนั้นจึงเป็นการเปิดโอกาสให้นิสิตได้ลงเรียนรายวิชาทางจิตวิทยาแบบเฉพาะทางและสามารถนำเอาความรู้ไปต่อยอดการเรียนต่อหรือการทำงานในอนาคตได้เป็นอย่างดี รวมถึงเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการได้ทดลองใช้ชีวิตที่ต่างประเทศและได้ทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ ต่างสัญชาติและต่างวัฒนธรรม เพื่อให้เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและเข้าถึงแก่นของหลักทางจิตวิทยามากยิ่งขึ้น
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของหลักสูตรนี้ คือ นิสิตจะได้รับใบปริญญาถึง 2 ใบ จาก 2 สถาบันที่เรียน ได้แก่ปริญญาตรีวิทยาศาสตร์จิตวิทยาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ทำให้สามารถทำเอาใบปริญญานี้ไปต่อยอดการทำงานได้ทั้งในไทยและต่างประเทศเลยนั่นเอง
เกณฑ์รับสมัคร JIPP CU ใช้คะแนนอะไรบ้าง ?
ถ้าน้องคนไหนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกสนใจอยากเรียนต่อในคณะนี้ก็สามารถเลือกสมัครเรียนได้ทั้งในรอบ Early Admission และรอบ Admission ซึ่งการเปิดรับสมัครทั้งสองรอบนี้จะมีเกณฑ์ที่เหมือนกัน คือ ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป โดยกำลังศึกษา หรือจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า (สามารถใช้การเทียบวุฒิ เช่น GED, IGCSE/ A level และวุฒิม.ปลายนานาชาติอื่น ๆ ยื่นสมัครเรียนได้)
นอกจากนี้จะต้องยื่นคะแนนผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษและคะแนนผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษและความถนัดทางคณิตศาสตร์ควบคู่กันไปในตอนสมัครเรียนด้วย (ใช้ทั้ง 2 คะแนนยื่นสมัครเรียน) ถ้าใครอยากทราบว่าคณะจิตวิทยา จุฬาฯ อินเตอร์ ใช้คะแนนอะไร มีคะแนนขั้นต่ำและเกณฑ์การคำนวณคะแนนอย่างไรบ้าง ก็สามารถดูที่ตารางด้านล่างนี้ได้เลย
คะแนน | เกณฑ์การคำนวณคะแนน | |
คะแนนผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ (อย่างใดอย่างหนึ่ง) | IELTS ≥ Overall 6.5 (และไม่มีพาร์ทใดต่ำกว่า 6.0) CU-TEP ≥ 104 | 70% (รวมกัน) |
คะแนนผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษและความถนัดทางคณิตศาสตร์ (อย่างใดอย่างหนึ่ง) | CU-AAT (Verbal+Math) ≥ 1200 SAT (Verbal+Math) ≥ 1200 | |
การสอบสัมภาษณ์ | 30% |
โดยก่อนหน้านี้ทางคณะอนุญาตให้ใช้คะแนน IB Diploma และ AP (Advance Placement Program) ยื่นสมัครแทนคะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ได้ แต่มีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์การรับสมัครตั้งแต่ปีการศึกษา 2569 ว่าจะงดรับการยื่นคะแนนสอบในส่วนนี้ จึงยังไม่มีข้อมูลออกมาว่าในปีการศึกษาที่จะถึงนี้จะเปิดรับนิสิตทั้งหมดกี่คน คาดว่าน่าจะต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการจากทางคณะอีกครั้งหนึ่ง
อ่านประกาศจากทางคณะ คลิก
จิตวิทยา จุฬาฯ อินเตอร์ ค่าเทอมเท่าไร
สำหรับอัตราค่าเทอมของคณะจิตวิทยา จุฬาฯ อินเตอร์ จะอยู่ที่เทอมละ 96,500 บาท ซึ่งจะแบ่งเป็นค่าเทอมของคณะ 70,000 บาท และธรรมเนียมมหาวิทยาลัย 26,500 บาทต่อเทอม โดยระหว่างการเดินทางไปศึกษาต่อที่ UQ ประเทศออสเตรเลีย นิสิตจะต้องชำระค่าธรรมเนียมมหาวิทยาลัยระหว่างการเรียนให้ทางจุฬาฯ ด้วย จึงสามารถรวมค่าใช้จ่ายที่จะต้องชำระให้กับทางจุฬาฯ เอาไว้ที่ประมาณ 562,000 บาท ส่วนค่าเทอมของการเรียนที่ UQ จะอยู่ที่ประมาณ 51,000 AUD$ (อัตรามีการผันผวนตามค่าเงิน ณ วันที่ลงทะเบียน จึงไม่สามารถสรุปตัวเลขค่าเทอมที่แน่ชัดได้) ทั้งนี้ อัตราค่าเทอมข้างต้นยังไม่รวมค่าธรรมเนียมแรกเข้า, ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ระหว่างการศึกษา และค่าครองชีพตลอดระยะเวลาการศึกษาต่อที่ออสเตรเลีย ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามไลฟ์สไตล์ของผู้เรียน
JIPP CU จบไปทํางานอะไรได้บ้าง
เนื่องจากหลักสูตรจิตวิทยาของทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ UQ เป็นหลักสูตรจิตวิทยาทั่วไปที่เน้นการเรียนการสอนเพื่อการประยุกต์ใช้งานในสายงานที่หลากหลาย จึงมีตัวเลือกอาชีพให้ผู้เรียนมากมายทั้งแบบตรงสายและการประยุกต์ใช้ความรู้เพื่อต่อยอดในการทำงาน ซึ่งแต่ละสายงานก็จะมีอัตราเงินเดือนที่ต่างกันออกไป ดังนี้ (ขอบคุณข้อมูลเงินเดือนจาก JobsDB)
งานสายจิตวิทยาทั่วไป เป็นงานตรงสายการเรียนที่ผู้เรียนจะได้ใช้ทักษะความรู้ที่เรียนมาได้อย่างเต็มที่ โดยในปัจจุบันที่ผู้คนเล็งเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพจิตกันมากขึ้นก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสายงานที่มีความต้องการแรงงานสูงทีเดียว
- นักจิตวิทยาทั่วไป เงินเดือนเริ่มต้น 28,000 – 29,000 บาท
- นักกิจกรรมบำบัด เงินเดือนเริ่มต้น 27,000 – 40,000 บาท
งานสายเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล สำหรับใครที่ชื่นชอบการทำงานในองค์กรใหญ่ ๆ ก็ขอแนะนำงานในสายนี้เลย แม้ว่าเงินเดือนเริ่มต้นจะไม่สูงมากนัก แต่เป็นงานที่มั่นคงและมีอัตราการเติบโตของเงินเดือนและตำแหน่งสูงมาก หากมีประสบการณ์ทำงานในระดับหนึ่งก็จะสามารถเพิ่มค่าตัวได้หลายเท่าในเวลาอันรวดเร็วเลย
- เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล เงินเดือนเริ่มต้น 19,000 – 25,000 บาท
- นักบริหารทรัพยากรบุคคล เงินเดือนเริ่มต้น 19,000 – 26,000 บาท
- เจ้าหน้าที่ประสานงาน HR เงินเดือนเริ่มต้น 24,000 – 30,000 บาท
- เจ้าหน้าที่ฝึกอบรม เงินเดือนเริ่มต้น 21,000 – 30,000 บาท
นอกจากนี้ หากใครที่ต้องการต่อยอดการทำงานแบบตรงสายมากยิ่งขึ้นก็ขอแนะนำให้ลงเรียนต่อในระดับปริญญาโทแบบเจาะลึกในสาขาที่สนใจเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีอาชีพนักจิตวิทยาแบบเฉพาะทางอย่าง “นักจิตวิทยาคลินิก” ที่จำเป็นจะต้องสอบใบประกอบวิชาชีพ (ใบประกอบโรคศิลป์) ก่อนจึงจะสามารถทำงานได้ และ “นักจิตวิทยาการปรึกษา” ที่เป็นสาขาเฉพาะทางในด้านการให้คำปรึกษา โดยทั้ง 2 อาชีพที่กล่าวมานี้ โดยมากจะรับวุฒิปริญญาโทเป็นหลัก
ไม่เพียงเท่านั้น น้อง ๆ ยังสามารถต่อยอดการเรียนและการทำงานในสายจิตวิทยาที่ “ประเทศออสเตรเลีย” และมีโอกาสย้ายไปเป็นพลเมืองของออสเตรเลียได้อีกด้วย เนื่องจากอาชีพนักจิตวิทยา (Psychologist) เองก็เป็นหนึ่งในอาชีพที่ขาดแคลนแรงงานในออสเตรเลียเช่นกัน หากใครลองเรียนช่วงปี 3-4 ที่ UQ แล้วชื่นชอบบรรยากาศการใช้ชีวิตที่ต่างประเทศก็เป็นตัวเลือกต่อยอดการเรียนและทำงานในอนาคตที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
เทคนิคพิชิตข้อสอบ ลงติวเพิ่มความมั่นใจก่อนเอาคะแนนไปยื่นสมัครเรียน
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าคณะนี้เป็นหนึ่งในคณะที่กำลังมาแรงสุด ๆ ในยุคนี้ จึงทำให้อัตราการแข่งขันสูงมากและมีคะแนนเฉลี่ยของผู้เข้าสอบสูงขึ้นทุกปี โดยล่าสุดทางคณะจิตวิทยา อินเตอร์ จุฬาฯ ก็ได้ลงสรุปคะแนน Admission เอาไว้ดังนี้

จะเห็นว่าแม้ทางคณะจะตั้งเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำเอาไว้ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว แต่คะแนนของผู้สมัครในแต่ละปีก็เพิ่มสูงขึ้นกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไปมาก ดังนั้นสำหรับใครที่ยังกังวลเรื่องการสอบภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ พี่กริฟฟินก็ขอแนะนำให้แบ่งเวลาการอ่านสอบและฝึกทำข้อสอบเยอะ ๆ เพื่อทำคะแนนให้สูงกว่าผู้สมัครในปีก่อนหน้า รวมทั้งแบ่งเวลามาเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษด้วย เพราะหากทำคะแนนสอบได้ดีแต่ไม่กล้าพูดตอนสัมภาษณ์ หรือตอบแบบตะกุกตะกักก็อาจทำให้คะแนนหายไปถึง 30% เลยทีเดียว
มั่นใจทำได้ครบทุกหัวข้อ เมื่อลงเรียนคอร์สต่าง ๆ ที่ House of Griffin
แต่ถ้าใครกังวลเรื่องติวสอบด้วยตัวเองก็สามารถทักมาปรึกษาเรื่องคอร์สติวกับพี่กริฟฟินได้เลย โดยที่ House of Griffin มีคอร์สให้เลือกลงติวแบบครบทุกตัว ไม่ว่าจะเป็น IELTS, TOEFL, CU-TEP, SAT และ CU-AAT ก็สามารถเลือกติวได้แบบครบจบในที่เดียว พร้อมมีพี่ ๆ ทีมงานคอยดูแลให้คำปรึกษาทั้งเรื่องการเรียนและการเตรียมตัวสอบอย่างใกล้ชิด ทั้งยังมีการลองสอบ Mock Test เพื่อวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนแบบรายบุคคล ทำให้สามารถแก้ไขจุดที่ผิดพลาดได้ก่อนลงสอบสนามจริง จึงมั่นใจได้เลยว่าจะสามารถนำเอาคะแนนไปยื่นเรียนจิตวิทยา อินเตอร์ จุฬาฯ ได้แน่นอน
คำถามที่พบบ่อย
คณะ JIPP CU ต่างจากคณะจิตวิทยาภาคไทยอย่างไร ?
จุดที่แตกต่างกันนอกเหนือไปจาก “ภาษา” ที่ใช้ในการเรียนการสอนแล้วนั้น ตัวหลักสูตรของ JIPP จะเป็นหลักสูตรปริญญาร่วมที่เปิดโอกาสให้นิสิต “ทุกคน” ได้ไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียกับทาง University of Queensland และมีโอกาสในการฝึกงานที่ต่างประเทศ จึงทำให้ช่วยต่อยอดโอกาสทั้งการศึกษาต่อและเส้นทางอาชีพในอนาคตได้ไกลกว่าหลักสูตรไทยหลายเท่าเลยทีเดียว
ตอนปี 3-4 เลือกเรียนที่ไทยได้ไหม ?
ไม่ได้ เพราะการเรียนที่ UQ เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร JIPP CU หากน้องคนไหนไม่สะดวกเดินทางไปเรียนที่ออสเตรเลีย แนะนำให้ลงเรียนภาคภาษาไทยแทน แต่หากติดปัญหาทางด้านการเงิน ทางจุฬาฯ ก็มีทุนการศึกษาให้นิสิตสมัครขอรับทุนได้ โดยสามารถติดต่อกับทางคณะโดยตรงได้เลย
คณะจิตวิทยา มีที่อื่นอีกไหม ?
นอกเหนือไปจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว ถ้าเป็นหลักสูตรที่ใช้ชื่อ “คณะจิตวิทยา” จะมีอยู่อีก 2 มหาวิทยาลัย ได้แก่ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ และมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตที่เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ส่วนมหาวิทยาลัยที่อยู่ในการกำกับดูแลของรัฐบาลแห่งอื่น ๆ จะไม่มี “คณะจิตวิทยา” โดยตรง แต่จะเป็น “สาขาวิชา” ในคณะอื่น ๆ เช่น คณะมนุษยศาสตร์, คณะศิลปกรรมศาสตร์, คณะสังคมศาสตร์ และคณะศึกษาศาสตร์แทน แต่สำหรับคณะจิตวิทยา หลักสูตรอินเตอร์ ในปัจจุบันยังมีการเปิดสอนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพียงที่เดียวเท่านั้น

